ThaiAdsense

วันนี้เอฟจะมาเล่าสู่กันฟังครับว่า เกี่ยวกับปัญหาที่ Google ถูกถามถึงบ่อย ๆ
ก็เรื่องของการแสดง AdSense หลาย ID บนเว็บไซต์เดียวกันครับ
คำถามนี้ส่วนมากก็จะเกิดกับ กรณีที่มีคนช่วยกันบริหารเว็บไซต์
แล้วก็มี AdSense ทั้งคู่ และ แน่นอนครับ ต่างคนก็ต่าง อยากจะให้แสดง AdSense ของตนเอง

คำตอบสำหรับเรื่องนี้นั้น ก็คือ...
ตอนนี้ทาง Google อนุญาตให้เราสามารถติด AdSense หลายคนบนหน้าเว็บไซต์เีดียวกันได้แล้วครับ !
แต่ว่า ข้อควรระวัง ก่อนจะติดกันสุ่มสี่สุ่มห้า ขอย้ำว่า ให้อ่านข้อห้ามของ Google ก่อนนะครับ
ซึ่งข้อควรระวังที่ Google พูดถึงไว้ก็มีดังนี้ครับ

• ระวังเรื่องจำนวนของโฆษณา ว่า 1 หน้าเว็บสามารถแสดง AdSense แบบไหนได้จำนวนเท่าไหร่ ยังเหมือนเดิม กับการแสดงโฆษณาของคนเดียวทั้งเว็บไซต์นะครับ
• ถ้าเราไม่ใช่เจ้าของเว็บไซต์การจะนำโฆษณาของเราไปแสดงบนเว็บไซต์ใด ๆ นั้นเราจะต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของเว็บไซต์เสียก่อน
• AdSense อันไหนสร้างรายได้ รายได้ก็จะเข้าบัญชีของคนนั้นไป Google ไม่สามารถเอารายได้มาหารแบ่งให้ได้ครับ (สมมติว่า A + B แสดงโฆษณาด้วยกัน แล้วมีแต่โฆษณาของ B เท่านั้นที่ได้รับการคลิก ดังนั้น A ก็จะไม่มียอดรายได้แสดงขึ้นในบัญชีนะครับ )
• แน่นอนครับ เนื้อหาบนเว็บไซต์ ก็ยังต้องถูกต้องตามกฏของ Google นะครับ ไม่งั้นก็ แบนนน..แน่นอนครับ
• การติด AdSense บนหน้าเว็บไซต์ใดนั้น เราต้องพิจารณาเนื้อหาของเว็บไซต์ที่เราจะนำ AdSense ไปติดเอาเองนะครับว่า เนื้อหาของเว็บไซต์ถูกต้องตามกฏของการทำ AdSense หรือเปล่า

ก่อนจากกัน ทาง Google บอกว่า ก่อนที่เราจะเที่ยวให้ ID ของโฆษณา AdSense ของเราไปให้ใครนั้น
ควรใช้ ฟังก์ชั่น Allow Site ครับ (อธิบายเพิ่มเติม : Allow Site นี้ก็คือการที่เราไประบุไว้ว่า ID AdSense ของเรา ถ้าถูกใคร Copy เอาไปไว้บนเว็บไซต์อื่นๆ ขอให้ระบบแสดงโฆษณาไปตามปกติ แต่การคลิกจะไม่ได้รับการบันทึก ซึ่งก็หมายความว่าจะไม่ได้เงินนั่นเอง แต่กรณีนี้ ก็เพื่อป้องกันการแกล้ง เอา ID AdSense ของเราไปทำอะไรที่ผิดกฏ AdSense โดยที่เราเองไม่รู้ตัว ซึ่งก็จะทำให้เราโดนแบนอย่างไม่รู้ตัวไปด้วยนั่นเองครับ)

ปัจจุบันนี้ อย่างที่เพื่อนๆ อาจจะงง กันบ้างกับจำนวนของ โฆษณา Google AdSense ที่เราสามารถติดได้บนหน้าเว็บไซต์ของเรา วันนี้ก็เลยจะมาอัพเดทแบบ 1-2-3 ให้จำกันได้ง่าย ๆ นะครับ
มือใหม่ ไม่ควรพลาด มือเก่า ก็ควรจะอัพเดทกันหน่อยครับ ดีกว่าตายน้ำตื้น เพราะติด AdSense เกินจำนวนแล้วโดนแบน
เริ่มกันเลยครับ
1 = Video Unit : อันนี้ยังมีภาษาที่สนับสนุนแค่ไม่กี่ภาษาครับ
2 = Search Box : ใส่ Search Box ได้สองอัน ใน 1 หน้าเว็บไซต์ครับ
3 = Link Unit , และ AdSense for Content : ใส่ Link Unit ได้ 3 อัน ต่อ 1 หน้าครับ
แต่อย่างไรก็ตาม ก็ควรจะคำนึงถึงผู้ใช้งานเว็บไซต์ของเราครับ ไม่ควรจะให้มันรกรุงรังจนเกินไป
แต่ว่า ให้ไปเน้นเนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์ของเราที่ไม่เหมือนใคร เพื่อที่จะให้ผู้เยี่ยมชม กลับมายังเว็บไซต์เราบ่อย ๆครับ และ ขอย้ำอีกนิดครับว่า ยิ่งเนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์ของเราเป็นตัวอักษรมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะเพิ่มความใกล้เคียงของโฆษณากับเนื้อหามากขึ้นเท่านั้นครับ (หมายถึงเนื้อหาทั้งหมดต้องเป็นเรื่องเดีัยวกันนะครับ ไม่ใช่ว่า โดดไปโดดมา มั่ว ๆ )

ถ้าสนในเรื่องการสร้าง Code AdSense เพื่อนๆ ลองเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ส่วนของ
วิดีโอสอนการสร้าง Code Generating Ad Code หรือ
หน้าสอนเรื่องการเริ่มต้นทำ Google AdSenseได้ที่นี่ Quick Start Guide.

ถ้าเพื่อนๆ ติดตามการอัพเดทของทีมงาน Google AdSense อยู่เนือง ๆ จะเห็นได้ว่า ทีมงานเขาจะขยันมากในการโพสต์เรื่องอัพเดทเกี่ยวกับลูกเล่น หรือ การพัฒนาอะไรใหม่ๆ ของ Google AdSense
แต่ทีนี้ ก็มีผู้อ่านบางส่วนที่ทำ AdSense แต่ว่าก็อยากจะรู้ว่า พัฒนาการของ Google AdWords นั้นมีอะไรที่จะช่วยทำให้ Google AdSense ได้รับผลดีขึ้น เช่น แสดงโฆษณาได้ใกล้เคียงกับเนื้อหามากขึ้น บ้างหรือเปล่า

ดังนั้นโพสต์นี้ ก็จะเล่าให้ฟังครับ เกี่ยวกับพัฒนาการล่าสุดของ Google AdWords แล้วก็จะบอกด้วยว่า พัฒนาการใหม่ๆ นี้ มีความหมายอะไรต่อเราชาว AdSense บ้างครับ

อย่างแรกที่สำคัญในพัฒนาการของ Google AdWords เลยก็คือเรื่องของผู้ลงโฆษณา AdWords สามารถเลือกแสดงโฆษณาได้แบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ด้วยลูกเล่นที่เรียกว่า contextual targeting และ placement targeting. โดยความหมายเพิ่มเติมคือ

contextual targeting : นี่ก็จะหมายถึงโฆษณา AdWords ที่จะกลายมาเป็น Google AdSense บนหน้าเว็บไซต์ของเรานั่นเองครับ
ส่วนเจ้า
placement targeting : นี่ก็หมายถึง โฆษณา AdWords ที่ผู้ลงโฆษณาเลือกเจาะจงเลยว่า จะแสดงบนหน้าเว็บไซต์ของเรา โดยเลือกตำแหน่งได้ หรือ จะเลือกจาก url ของเว็บไซต์เราก็ได้นั่นเองครับ

เพื่อน ๆ อาจจะกังวลว่า แล้วแบบนี้โฆษณาที่ได้ อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาเราก็ได้น่ะสิ แล้วถ้าเนื้อหาของโฆษณาไม่สัมพันธ์กับเนื้อหา อย่างนี้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ ก็อาจจะคลิกโฆษณาน้อยลง หรือ ถ้าแย่กว่านั้น จะกลายเป็นว่าสร้างความรำคาญให้กับผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราอีกด้วย

ไม่ใช่ครับ การเลือกตำแหน่ง หรือ url เว็บไซต์ สำหรับลงโฆษณานี้ ไม่ใช่ว่า คนขายเสื่อ จะมาแสดงโฆษณา บนหน้าเว็บเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ของเราได้ง่าย ๆ ครับ Google ยังใช้เรื่องของ Keywords มาเป็นส่วนดึงโฆษณามาแสดงเหมือนเดิมครับ แถมเรายังใช้ ตัวกรองโฆษณาของคู่แข่งเรา ไม่ให้มาแสดงบนหน้าเว็บไซต์เราได้เหมือนเดิมครับ

แล้วการเปลี่ยนแปลงของ Google AdWords นี้ มีความหมายกับเราอย่างไรกันล่ะ?
แน่นอนครับ สำหรับการลงโฆษณา Google AdWords นั้น ผู้ลงโฆษณาที่ฉลาดพอ จะต้องเรียนรู้การสร้างกำไรจากการแสดงโฆษณาของเขาแบบที่ไปแสดงโฆษณาตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ครับ แต่ทีนี้ แทนที่เขาจะปล่อยให้โฆษณาปรากฏทุกเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้อง เขาก็จะเลือกเจาะจงเฉพาะเว็บไซต์ที่ "สภาพดี ๆ " นั่นเองครับ

นั่นย่อมหมายความว่า เขาต้องเลือกสรรมาแล้วอย่างดีว่าเว็บไหนที่มันคู่ควรครับ ใครที่ทำเว็บมีเนื้อหาดี ๆ ก็เตรียมตัวรับทรัพย์ได้เลยครับ นอกจากนี้ พอผู้ลงโฆษณา AdWords เลือกแล้ว ว่าเว็บไหนเหมาะกับสินค้าของเขา นั่นย่อมหมายความว่า เว็บไซต์เราจะได้โฆษณา AdSense ที่สัมพันธ์กับเนื้อหามากขึ้นไปอีก อย่างที่ทราบกันดีครับ พอโฆษณาเกี่ยวข้องกับเนื้อหา โอกาสการทำเงินของเราก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยนั่นเอง

และก่อนหน้านี้ผู้ทำ AdWords ยังเลือกแสดงโฆษณา เฉพาะเว็บไซต์ที่ต้องการไม่ได้ เวลาทำ AdWords แล้วต้องการให้โฆษณาแสดง ก็ต้องเผื่อเงินไว้ เพราะไม่รู้ว่าโฆษณาจะใช้งบประมาณเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าโฆษณาจะถูกคลิกแล้วสูญเปล่าไม่ได้ลูกค้ามาซื้อของมากน้อยแค่ไหน

แต่เดี๋ยวนี้ลูกค้าทำการเลือกปรับยอด bid แยกเว็บได้แล้ว นั่นหมายความว่า ถ้าเว็บไหนสร้างลูกค้าให้ Advertiser ได้เยอะ เขาก็ต้องอยากให้โฆษณาของเขายึดพื้นที่บนเว็บไซต์เรา โดยต้องประมูลราคาให้เหนือคู่แข่งของเขานั่นเอง นี่ก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับคนทำ AdSense เช่นเคยครับ ยิ่ง bid สูง เราก็ได้รายได้ต่อคลิกสูงขึ้นไปด้วยครับ

ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของ AdWords นี้ทาง Google บอกว่าต้องการพัฒนาให้ระบบการทำโฆษณาออนไลน์โดยรวมนี้ดีขึ้น สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีทั้งผู้ลงโฆษณา AdWords คนทำ AdSense และผู้ใช้งานเว็บไซต์
(หมายความว่า ทั้งเจ้าของสินค้า ผู้ให้พื้นที่โฆษณา (AdSense) และผู้ที่ต้องการซื้อสินค้า ต่างได้สิ่งที่ตนต้องการทั้งสิ้น) ครับ

(Newbie, newbie do
(ให้ใช้ทำนองของเพลง "Strangers in the Night" ของ Frank Sinatra)


"Publishers with websites, creating content
Wondering about their sites
If with their content, they could show some ads
Before the day was done

Something in AdSense, was so inviting
Something about those ads, was so exciting
Something in our Help Center
Told them they must be one

Publishers with websites, yearning for earnings
They were just publishers with websites
Up to the moment
When they placed their first ad code
Little did they know
Revenue was just a click away
A happy-user-generated click away and --

Ever since that day, they've been monetizing
Newbies at the start, they're now optimizing
It turned out so right
For publishers with websites.

Newbie, newbie dooo, da da da daaaa da..."
AdSense Team เขาบอกว่า

ถ้าเนื้อเพลงเรายังสื่อความหมายได้ไม่ดีพอ
ถ้าศูนย์ช่วยเหลือมือใหม่ AdSense ยังไม่แสดงความรู้สึกเราได้ดีพอ
งั้นขอพูดตรง ๆ เลยแล้วกันว่า เราห่วงใย มือใหม่ AdSense ทุกคนจริงๆ
ดังนั้น อีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า เราจะแสดงความห่วงใยต่อ AdSense มือใหม่ให้มากขึ้น
โดยเราจะทำการโพสต์เรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับการทำ AdSense โดยเน้นไปเพื่อให้ความรู้แก่ มือใหม่ทั้งหลายที่เปรียบเสมือนหญ้าอ่อน ๆ บนสนามหญ้าในหน้าร้อน

มือใหม่ทั้งหลาย โปรดมองหาสัญลักษณ์ดังภาพด้านล่างนี้นะครับ

จากการประกาศยกเลิก Referral ของการทำ Google AdSense
ทำให้ AdSense Team ได้รับคำถามซ้ำ ๆ กัน เยอะมาก เกี่ยวกับการยกเลิก AdSense Referral ครั้งนี้ ดังนั้นทาง AdSense Team จึงได้รวบรวมคำถามที่ถามซ้ำ ๆ กันไว้ ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่าครับว่า มีคำถามอะไรบ้าง และ ทาง AdSense Team ได้ให้คำอธิบายกับทุกคำถามแล้วด้วย

1. ที่บอกว่า AdSense Referrals จะยกเลิกนี่หมายถึงเฉพาะการแนะนำ (referrals) ให้คนมาใช้ Google AdSense เท่านั้นหรือเปล่า ไม่ได้หมายรวมถึงอย่างอื่น
- ไม่ใช่ครับ Referrals ทุกชนิดจะถูกยกเลิก ไม่ว่าจะเป็น AdSense Referrals, AdWords Referrals, หรือว่า ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Google จะถูกยกเลิกทั้งหมดครับ

2. วันสุดท้ายของการแนะนำผลิตภัณฑ์ (Referrals) คือวันไหน
- ลิงค์ที่แสดง Referrals จะไม่แสดงผลตั้งแต่สัปดาห์สุดท้ายของเดือนสิงหาคา 2551 นี้แล้วครับ แต่ว่า ถ้ามีคนคลิกที่ลิงค์ไว้ก่อนหน้านี้ แต่ว่าเพิ่งจะสมัครใช้บริการผลิตภัณฑ์ Referrals ของคุณ ทาง Google ให้กำหนดถึงสิ้นเดือน กันยายน 2551 ครับ (จริง ๆ ภาษาอังกฤษเขาบอกว่า สัปดาห์สุดท้ายของเดือนกันยายน 2551 นะครับ)

3. ผมได้รายได้จากการแนะนำผลิตภัณฑ์ (Referrals) ตั้งนานแล้วแต่ว่ามันยังไม่ถูกจ่ายออกมาเป็นรายได้ อย่างนี้ผมจะสูญเสียรายได้นี้ไปเลยหรือเปล่า
- ไม่ครับ รายได้ที่สร้างได้ตั้งแต่อดีต จนถึงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกันยายน ตามที่บอกไว้ใน ข้อ 2. จะยังคิดเป็นรายได้ให้กับผู้ทำ AdSense อยู่ครับ

4.เราจะใช้ User Name และ Password ของ Google Account สมัครใช้บริการ Google Affiliate Network ได้เลยหรือไม่
- สำหรับตอนนี้ ยังไม่ได้ครับ ต้องสมัครโดยใช้ User Name และ Password ใหม่ครับ

5. แล้วอย่างนี้ Ad Unit กับ Search Box จะได้รับผลกระทบอะไรจากการยกเลิก AdSense Referrals หรือเปล่าครับ
- ไม่เกี่ยวกันครับ ทั้ง Ad Unit และ Search Box จะยังสามารถทำงานได้ตามปกติครับ

หวังว่าคำถามเหล่านี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ หลาย ๆ ท่านหายสงสัยเกี่ยวกับการยกเลิก AdSense Referrals ได้บ้างนะครับ ถ้ายังสงสัยอยู่คงต้องไปดูที่ AdSense Help Forum (ภาษาอังกฤษ) แล้วนะครับ