ThaiAdsense

เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่าง CTR และ รายได้
นี่คือเรื่องราวความลึกลับที่นักสืบ Veronica Mars ผู้กล้าหาญสงสัย :
ทำไมเมื่อ CTR สูงขึ้น บางทีก็ทำให้รายได้ต่อ คลิกลดลง

บางครั้ง Google ก็ได้ยินข้อมูลจากผู้ทำ AdSense ผู้ซึ่งงุนงงว่ารายได้ของพวกเขาไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย ทั้ง ๆ ที่ CTR สูงขึ้น ปรากฏการณ์นี้ดูเหมือนจะอธิบายไม่ได้ และ เมื่อมันเกิดขึ้น ผู้ทำ AdSense อาจจะสงสัยว่า มันคือ 'smart pricing' ได้เกิดขึ้นกับเวบไซต์ของเขา, หรือไม่ก็ Google ปรับเปลี่ยนส่วนแบ่งระหว่างรายได้ แต่ว่าจริง ๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่?

AdSense is unique because it's designed to maximize eCPM for our publishers, taking into account both the advertiser's cost-per-click (CPC) bid and the likelihood that the ad will be clicked. Some ads are attractive to a broad range of site visitors and will be clicked on more frequently. While this can be great for your CTR, advertisers are often bidding less for these kinds of broadly targeted ads. Other ads are attractive only to a small niche of users. Advertisers will typically pay more for these tightly targeted ads, but those ads are also less likely to get clicked.
AdSense ไม่เหมือนใคร เพราะว่ามันถูกออกแบบมาให้สร้างค่า eCPm ที่สูงที่สุดแก่ผู้ที่ทำ AdSense, โดยพิจารณาจากทั้ง ฝั่งของผู้ลงโฆษณาในการประมูลแบบ cost-per-click (CPC) และ ความเป็นไปได้ที่โฆษณาจะถูกคลิก โฆษณาบางตัวดึงดูดผู้เยี่ยมชมเวบไซต์แบบกว้าง ๆ จึงจะถูกคลิกบ่อย ซึ่งทำให้ CTR สูง ดังนั้นผู้ลงโฆษณาก็มักจะประมูลแบบจ่ายต่ำ ๆ แต่โฆษณาบางตัวเป็นโฆษณาแบบเฉพาะเจาะจง ก็จะมีผู้คลิกน้อย ผู้ลงโฆษณาก็มักจะจ่ายแพงกว่า เพราะการเจาะจงมักจะเกิดการแข่งขันกันสูง

ขึ้นอยู่กัีบโฆษณาในระบบของ Google บางวันคุณอาจจะเห็นว่า AdSense แสดงโฆษณาที่มี CTR สูงแต่การจ่ายต่ำ ๆ ส่วนอีกวัน คุณอาจจะเห็นสิ่งที่ตรงกันข้ามเลยก็ได้ ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้บนเวบไซต์ของคุณ ไม่ต้องตกใจนะครับ ให้นึกไว้ในใจเลยครับว่า Google กำลังพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้รายได้ของ ผู้ที่ทำ AdSense สูงที่สุด มองอีกมุมหนึ่งก็คือ นั่นจะช่วยให้สามารถสร้างรายได้ได้มากที่สุด แม้ว่าโฆษณาจะมีลักษะต่าง กันก็ตาม

Posted by Bryan Vu - AdSense Optimization Team
9/25/2006 11:29:00 AM

AdSense ได้ปรับปรุงเครื่องมือในบัญชี AdSense อีกแล้วครับ โดยการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมนี้เป็นความเห็นโดยตรงจากผู้ที่ทำ AdSense อย่างแรกเลย Google ได้ทำการปรับแต่งหน้า Channels ตรงใต้ Setup tab ครับ โดยทำการออกแบบให้หน้าตาเวบไซต์ดูสะอาดมากขึ้น ด้วยการใส่ product ต่าง ๆ ไว้ภายใต้ sub-tab อีกทีหนึ่ง และ Google ยังปรับเปลี่ยนเรื่องของการใช้งาน ให้ง่ายขึ้นในการปรับเปลี่ยน channels ของเรา เพียงแค่เลือก checkbox ที่อยู่ติดกับ channel แล้วก็เืลือกว่าให้ channel นั้น ทำงาน หรือ หยุดการทำงาน หรือ ถอดออกจากระบบ หรือว่า จะทำการเปลี่ยนชื่อก็ได้ครับ












นอกจากนี้ Google ยังได้ทำการออกขนาดของโฆษณา ขนาดใหม่ขึ้นมาด้วยครับ, อย่างที่รู้จักกันในชื่อของ small square ขนาดของโฆษณาแบบนี้รองรับโฆษณาแบบตัวอักษา รูปภาพ และ วิดีโอ ด้วยนะครับ และ Google ก็หวังว่าจะเป็นส่วนช่วยที่ดีในการหาที่วางโฆษณา AdSense ลงบนเวบไซต์ของเรา















Posted by Nikhil Achwal - AdSense Publisher Support
9/21/2006 06:47:00 PM

วันนี้ Google มาแนะนำการอัพเดทเวบไซต์โดยไม่ต้องทำการอัพเดทเอง ด้วยการใช้ Google Related Links ครับ โดยให้เราเข้าไปที่ http://www.google.com/relatedlinks/ แล้วก็ทำการสร้าง Google Related Links สำหรับเวบไซต์ของเราขึ้นมาได้เลย เราสามารถเลือกสีสัน, ขนาด และ ชนิดของเนื้อหา(มีหัวข้อให้เลือกคือ ข่าว,วิดีโอ, search box และ เวบไซต์ที่เกี่ยวข้องกัน) เลือกง่าย ๆ ครับ ง่ายกว่าตอนเราสร้าง AdSense Code ของเราอีกครับ ผมลองทำแล้ว จากนั้น Google ก็จะส่ง Crawler มาตรวจสอบเวบไซต์ของเราว่าเกี่ยวกับอะไร แล้วก็จะส่งเนื้อหาให้ตรงกับเวบไซต์ของเรามาให้ครับ
















แต่ว่าเราไม่ได้เงินนะครับ แต่สิ่งที่เราจะได้คือ หน้าเวบไซต์ของเราจะมีเนื้อหาที่สดใหม่อยู่เสมอ โดยที่เราไม่ต้องทำการบำรุงรักษาอะไรเลยครับ ผู้ใช้งานเวบไซต์ก็จะเข้ามาเยียมชมเวบไซต์ของเราบ่อยขึ้นเพราะมีสิ่งใหม่ ๆ น่าสนใจอยู่เสมอ ด้วยวิธีนี้ เวบไซต์ของเราก็จะส่งเสริมให้ผู้เยี่ยมชมสนใจข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ถ้าเราจัดวาง AdSense แบบเหมาะสมควบคู่ไปกับ Google Related Link นั่นก็จะช่วยให้ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์กล้าที่จะคลิกยังข้อมูลที่เขาสนใจมากขึ้น
Posted by Shannon Bauman - Product Manager for Google Related Links
9/07/2006 04:02:00 PM

วันนี้ Robert เขามาแนะนำ Tips สำคัญ 3 ข้อ เพื่อให้เรานำไปใช้ในการตรวจวัดผลลัพธ์ และ ทำความเข้าใจที่ลึกซึ้ังมากขึ้นว่าเกิดอะไรขึ้นเกี่ยวกับ AdSense บนเวบไซต์ของเรา


1. ทำความคุ้นเคยกับ custom channels.ซึ่งเป็นทางที่มีประสิทธิภาพเพียงทางเดียวที่พบว่าคนทำ AdSense ใช้ในการตรวจวัดผลลัพธ์ Custom channels เป็นวิธีในอุดมคติที่จะใช้เพื่อการตัดสินใจว่า การเปลี่ยนแปลงล่าสุดที่เราทำกับตำแหน่งในการวางโฆษณา AdSense หรือ รูปแบบของ AdSense นั้นปรับปรุงประสิทธิภาพได้มากน้อยเพียงใด คนทำ AdSense หลาย ๆ คน ไม่ประสบผลสำเร็จในการอัพเดทรายการ channel ของเขาเมื่อมีการปรับเปลี่ยน หรือที่เลวร้ายสุด ๆ ไม่ยอมใช้ channel เลย ไม่รู้เลยว่าการตัดสินใจของเราเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงบนหน้าเวบไซต์ของเรานั้นมีผลดีต่อผู้เยียมชมเวบไซต์ของเราหรือไม่ ซึ่งนั่นทำให้ยากขึ้นไปอีกในการก้าวไปยังขั้นอื่น ๆ ต่อไป ดังนั้นเราต้องใช้ channel ให้เหมือนตัวช่วยติดตามตรวจสอบเพื่อให้เรามั่นใจได้ว่า เรายังอยู่บนทิศทางที่จะมุ่งไปสู่ความสำเร็จนะครับ

2. หมั่นวิเคราะห์อยู่เสมอ-- ใช้ Google Analytics ด้วยนะครับเพื่อทำการตรวจสอบประสิทธิภาพของ AdSense ของเรา เรียนรู้ว่าผู้เยี่ยมชมเวบไซต์ของเรามาจากไหน และ ดูว่าเขาทำอะไรกับเวบไซต์ของเราบ้าง ซึ่งจะช่วยให้เราตัดสินใจได้ว่าจะวางโฆษณาไว้ตรงตำแหน่งไหน และ ควรใช้โฆษณารูปแบบไหน อย่างที่บอกว่า Google Analytics สามารถช่วยให้เราเลือกตัวเลือกเพื่อใช้ในการปรับแต่งเวบไซต์ของเราพร้อม ๆ กับทำการเพิ่มประสิทธิภาพให้ Google AdSense ของเราด้วย การวัดผลหลังจากทำการเปลี่ยนแปลงหน้าเวบไซต์ของเราสามารถช่วยให้เราตัดสินใจทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อผู้ใช้งานเวบไซต์ของเราได้ดีขึ้น แล้วทำไมไม่ลองใช้กันดูล่ะครับ

3. ทำตัวให้ว่าง รายงานผลของ AdSense มันสามารถส่งมาทาง e-mail ได้แล้ว ถ้าเราจริงจังเกี่ยวกับการตรวจวัดผลว่าบัญชี AdSense ของเรามีประสิทธิภาพเป็นอย่างไร เราก็ควรจะติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ แต่ว่าจะใช้เวลาตรวจดูประสิทธิภาพอย่างสะเปะสะปะโดยการเข้าไปดูในบัญชี AdSense ของเราทำไมล่ะครบ เมื่อเราสามารถส่งข้อมูลทั้งหมดมายัง e-mail ของเรา เราสามารถเลือกให้ AdSense ส่งข้อมูลของบัญชี AdSense มาแบบรายวัน รายสัปดาห์ หรือ รายเดือนก็ได้นะครับ นอกจากนี้ เรายังสามารถส่งไปยังหลาย ๆ e-mail พร้อม ๆ กันได้อีกด้วย เพื่อให้คู่ค้าของเราได้ตรวจสอบประสิทธิภาพของบัญชี AdSense ได้ข้อมูลที่อัพเดทที่สุด

Posted by Robert Freeborn – AdSense UK Optimization Team
8/30/2006 02:28:00 PM

**********************************************************************************
เอาล่ะครับ หลังจากที่คุณได้ทำการปรับแต่ง และ ได้ใช้เครื่องมือต่าง ๆ ที่ AdSense Team ได้นำเสนอไว้ให้แล้ว. แล้วทีนี้ยังไงต่อล่ะ ถึงเวลาแล้วครับ ที่เราจะมาดูผลของลัพธ์ ของการปรับแต่งต่าง ๆ และ มาตัดสินใจกันว่า เราจะไปทางไหนต่อดี. เพื่อปิดท้าย เดือนแห่งการ Optimization สัปดาห์นี้ ชาว AdSense Team เขาก็เลยแบ่งปัน tips ว่า เราจะมาตรวจสอบ ประสิทธิภาพ และ ประเมินผลของ Account คุณอย่างไรได้บ้าง--และ เราจะดูออกได้อย่างไรว่า..เราจะทำอะไรต่อไป

ตอนนี้ คุณได้ ทดลองทำตามวิธี optimization tips ต่าง ๆ ที่ทาง AdSense Team คัดสรรมาให้ไปเรียบร้อยแล้ว, หวังเป็นอย่างยิ่งครับว่า รายได้ของคุณจะเพิ่มขึ้นบ้าง. แต่ว่า จะเป็นอย่างไรล่ะครับ ถ้าคุณได้เห็น รายได้ของคุณ ขึ้น ๆ - ลง ๆ ? ไม่ต้องตกใจเลยครับ-- มันเป็นปกติแหละครับ ซึ่งก็มีได้หลายสาเหตุ, อย่างเช่น โฆษณาอะไรที่ user ของคุณคลิกไป , หรือ ว่าจำนวนโฆษณาที่ Google AdSense มีเปลี่ยนไป เป็นต้น

จะมีบ้างเป็นช่วง ๆ ที่จะมีผลกับรายได้ครับ เช่นว่า ถ้าคุณทำเวบเกี่ยวกับรายการ TV show , คุณอาจจะมีรายได้ลดลงหลังจากจบ TV Show season นั้น ๆ ไป ก็เพราะว่า ผู้ทำโฆษณาเกี่ยวกับรายการนั้น ๆ ลดจำนวนของ site targeting ลงไป. หรือไม่ก็, ถ้าคุณทำเวบเกี่ยวกับการศึกษา, คุณอาจจะมีรายได้ลดลงระหว่างช่วงปิด summer เนื่องจากจำนวนหน้าเวบที่ถูกเปิดลดลง. อันนี้ก็ถือว่าเป็นปกติ แล้วทุกอย่าง มันก็จะกลับมาเหมือนเดิมอีกครั้งเองแหละครับ

มันสำคัญมาก ๆ นะครับ ที่จะเก็บสถิติเหล่านี้ ไว้ในใจด้วย เวลาทำการประเมินเวบไซต์ของคุณ เวลาเราจะเปรียบเทียบ apples เราก็ต้องเทียบกับ apples นะครับ. ยกตัวอย่างเช่น, เวลาจะเปรียบเทียบผล ก็ดูด้วยครับว่า เปรียบเทียบกันในวัน หรือ เดือน ซึ่งมีจำนวนของหน้าเวบไซต์ เท่า ๆ กัน. นี่จะทำให้แน่ใจได้ว่า คุณทำการเปรียบเทียบจาก ข้อมูล ที่ถูกต้อง. (คือ จะเทียบกันน่ะครับว่า ก่อนปรับปรุง ตามวิธีทีแปลให้ทั้งหลายที่ผ่านมา (ไม่น่าเชื่อครับ เกือบ 100 บทความแล้วนะครับ) ใช้ customs channels สิครับ ก็จะช่วยให้คุณเปรียบเทียบสถิติของ ad unit ได้ละเีอียดเลยครับ เพื่อตัิดสินใจว่า ad units อันไหน มีประสิทธิภาพดีกว่ากัน, และ ad units อันไหน ควรจะต้องปรับปรุง หรือ ถอดออก เพื่อเพิ่ม CTR และ eCPM

สุดท้ายนี้, ถ้าอยากจะศึกษาเพิ่มในส่วนของ กลยุทธ์อื่นๆ ก็ลองเข้าไปดูว่า AdSense Publisher คนอื่น เขาใช้วิธีอย่างไรบ้าง, ดูได้ที่ case studies นะครับ

จำไว้นะครับว่า ทุก ๆ เวบไซต์มีความเป็นเอกลักษณ์ แตกต่างกัน, ดังนั้น จำเป็นอย่างยิ่้งที่จะต้องทำการปรับแต่ง ทดสอบ อยู่เสมอ ๆ เพื่อดูว่าอะไรจะมีประสิทธิภาพดีที่สุดสำหรับเวบคุณ. อย่าไปกลัวที่จะลองของใหม่ สิครับ! และ ท้ายสุด ของสุดท้ายครับ, ฝากคำคมไว้หน่อยแล้วกันครับ Duct tape (เป็นไงฟะ) มันเหมือนพลัง- มันมีทั้งด้านสว่าง และ ด้านมืด และ มัน ทำให้ ทั้งจักรวาลอยู่ด้วยกัน (งงป๊ะครับ..ผมก็งงครับ ไม่ได้เป็นเด็กนอกนี่ครับ..งง ๆ ไปได้ ไม่เป็นไรครับ อิอิ)

Posted by Arlene Lee - AdSense Optimization Team
8/25/2006 11:02:00 AM
*******************************************************************************
เราหวังว่า คุณจะได้รับความเข้าใจที่มากขึ้น เกี่ยวกับเครื่องไม้เครื่องมือ และ ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ Google ได้จัดเตรียมไว้ให้ เพื่อช่วยให้ website ของคุณ ได้ปรากฏแก่สายตาชาวโลก . อย่างที่ Boyar สัญญาไว้ Boyar promised เราจะปิดสัปดาห์นี้ แบบแตกต่างไปซักหน่อยนะครับ, ด้วยการแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับ AdSense Publisher ผู้ที่ใช้ เครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ จาก Google เพื่อทำการเพิ่มผู้เยี่ยมชม website ของเขาได้ถึง 50 เท่า ภายในเวลา 2 เดือนเท่านั้น !!!

ไรอัน, Webmaster ของ website TropicalYarns.com, คือปกติเขาก็ใช้ AdSense for content และ AdSense for search เพื่อเพิ่มรายได้ ให้แก่ website ของเขาอยู่แล้ว. แต่อย่างไรก็ตาม. เขาก็รู้ดีว่าผู้เยี่ยมชม website ของเขาส่วนใหญ่เป็นผู้เยี่ยมชมที่มีอยู่แล้ว.ด้วยการใช้ Analytics, ทำให้ ไรอัน สามารถรู้ได้ถึง user ที่มาใหม่ และ user ที่เพิ่งเข้ามาใน website ของเขาเป็นครั้งแรก. เมื่อวิเคราะห์ และ ทำการหาหน้า website ที่เป็นที่ Hit ของ website ของเขาได้แล้ว ในเดือน June,

เขาได้เพิ่มส่วนของ จดหมายข่าว(e-mail newsletter ) เข้าไปให้ user สมัคร และ เห็นได้ถึงว่า มีผู้สมัครใช้งานถึง 20%. ภายในเดือนเดียว, ไรอันพบว่ามีผู้เยี่ยมชมหน้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นถึง 75%



ในเวลาเดียวกัน, ไรอัน ใช้ AdWords เพื่อโฆษณา website ของเขาด้วย. หลังจากทดลองไปประมาณ 3 สัปดาห์ เพื่อปรับปรุงโฆษณา AdWords ของเขา. เขาสามารถเพิ่มอัตราการคลิกผ่านโฆษณา AdWords ของเขา และ นำ user เข้ามายัง website ของเขาได้เพิ่มมากขึ้น; ในเดือน July, 14% ของผู้เยี่ยมชม website ของเขา ได้มาจากโฆษณา AdWords, และ ผู้เยี่ยมชมเหล่านี้ เพิ่มจำนวนหน้า website ที่ถูกเปิด ถึง 22% ต่อเดือน. นอกจากนี้ ด้วยการใช้ Analytics reports เพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับโฆษณาของเขาได้ด้วย. เช่น ถ้าผลการค้นด้วยคำว่า "free patterns" นำพาผู้เยี่ยมชมเข้ามายังเวบไซต์ของเขา , ดังนั้น เขาก็ไม่ต้องไปโฆษณาด้วยคำนั้น..ไปโฆษณาด้วยคำอื่นๆ แทน เพราะยังไง คำนั้น ก็นำคนมายัง website ของเขาอยู่แล้ว

ด้วยการที่ Tropical Yarns เป็น ร้านค้าปลีก, ไรอัน ยังได้ตัดสินใจที่จะทดลองใช้ผลิตภัณฑ์อื่น ของ Google อีก เช่น Google Base และ Google Checkout. ด้วยรายชื่อที่มากกว่า 1,000 ชนิดของ(ด้วย Google Base) ผลิตภัณฑ์ พื้นฐาน และ ยังช่วยเพิ่มหนทางการซื้อสินค้าของเขา online (ด้วย Google Checkout) อีกด้วย, ไรอันจึงได้พบกับ users ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น.
ถึงแม้ว่า ร้านค้าของไรอันจะตั้งอยู่ที่ South Florida, แต่ว่าผู้ซื้อที่สนใจ ก็จะสามารถเยี่ยมชม website ได้จากทั่ว United States เพื่อซื้อของจากร้านของเขา

เมื่อเร็ว ๆ นี้, ไรอัน พบว่า ด้วย Google Video สามารถช่วยเชื่อมต่อ website ของเขา กับ users ได้อีกด้วย- ในอนาคตยังมีแผนจะทำโฆษณาสั้น ๆ สำหรับ ร้านค้าของเขาด้วย, videos of classes, and more. เรื่องราวของ ไรอัน เป็นตัวอย่างที่ดีให้เห็นว่า คุณสามารถปรับปรุงเนื้อหาบน website ของคุณ และ การปรากฏต่อสายตา user ด้วย Google products

เมื่อถูกถามถึงภาพรวมของประสบการณ์ของเขา, ไรอัน บอกว่า " one by one,each of the dozen" Google products ได้ถูกใช้เพื่อเพิ่มการนึกถึงของ website ของเขา และ ยังช่วยนำผู้ใช้งานเว็บไซต์ที่มีคุณภาพมายังเว็บไซต์ ของเขาอีกด้วย.

แต่ก็อยากให้จำไว้นะครับว่า ไม่มี ผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่เป็น สิ่งมหัศจรรย์ เพียงชั่วข้ามคืน, แต่ว่า ใช้มันรวมเข้าด้วยกัน ซึ่งมีการพิสูจน์แล้วว่า สร้างความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ ครับ

As an AdSense publisher, you've probably put a lot of effort into making your website the best it can be -- optimizing your ads, building good content, and driving high quality visits. But there's one crucial step left: to see just how effective these things are. How many visitors are you getting each day? What pages are they visiting? Where do they come from, and which keywords brought them to your site -- both from pay-per-click efforts and from natural search?

Many website owners push their site live, and then leave it at that, remaining in the dark about all these questions. Google Analytics can enlighten you. We think it's much more fun to have the answers to these burning questions, and that you owe it to yourself to know for sure. After all, this is the payoff for all the hard work that's gone into creating your site. When you launch or make a change to it, there's that initial excitement of wondering who's going to check it out. And Google Analytics can help you with all of this

It's as easy to set up as AdSense. All you need to do is add a couple lines of code to each page in your site, and to gain valuable insight with graphical representations of visitor levels and detailed, easy-to-use reports that show:

-- pageviews of each of individual web pages

Perhaps this gives you an idea of how Google Analytics can help you measure the success of changes to your site, and confidently make design choices. The best part? After retreating into invitation mode since it launched last November, we're happy to tell you that Analytics is now available for everyone, so you can get started analyzing your site right away.

****************************************************************************

ในฐานะ AdSense publisher, คุณจะต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการทำ website ของคุณให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้-- การปรับแต่งโฆษณาของคุณ (optimizing), สร้าง content ดี ๆ, และ หา คนเข้าเวบที่มีคุณภาพสูง ๆ (traffic) แต่ว่ามันยังมีอยู่อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญมาก นั่นก็คือต้องดูว่า สิ่งที่คุณได้ทำลงไปทั้งหมดนั้น มันมีประสิทธิภาพเป็นอย่างไรบ้าง แล้วมีผู้เข้ามาเยี่ยมชมกี่คนต่อวัน , หน้าไหนที่เขาเข้าไปดู, แล้วเข้ามาเวบเราจากที่ไหน, และ ด้วย keyword อะไรที่นำเขา เข้ามายังเวบไซต์ของเรา-- ทั้งการทำ pay-per-click และ จากผลการค้นหาตามปกติ

เจ้าของ website หลาย ๆ คน ทำให้ website ของตน มีชีวิตขึ้นมา แล้วก็ปล่อยมันทิ้งไว้อย่างนั้น, และ ยังคงมองไม่เห็นถึงคำถามเหล่านี้ ด้วย Google Analytics แล้ว จะสามารถให้ความกระจ่างแก่คุณได้. เราคิดว่า มันน่าสนุกมากกว่านะที่จะมีคำตอบให้กับคำถามที่คอยหลอกหลอน เผาผลาญจิตใจเหล่านี้, และเมื่อคุณมีคำถามเหล่านี้อยู่กับตัว แล้วก็ย่อมจะอยากรู้คำตอบใช่มั้ยครับ. ท้ายที่สุดแล้ว นี่คือผลลัพธ์สำหรับ การทำงานหนักในการสร้าง website ของคุณ.เมื่อคุณเปิดตัว หรือ มีการเปลี่ยนแปลงมัน, นั่นแหละเป็นจุดเริ่มต้นของความตื่นแต้นว่าใครจะเป็นคนไปตรวจดูมัน. และ ด้วย Google Analytics คุณจะสามารถหาคำตอบเหล่านั้นได้

.


















มันง่ายในการติดตั้งมากครับ เหมือน ๆ Google AdSense นั่นแหละครับ ที่คุณต้องการก็มีแค่เพียง ใส่ code สองสามบรรทัดลงไปในแต่ละหน้าของ website ของคุณ, เพื่อตรวจข้อมูลอันมีค่าของ ผู้เยี่ยมชม website ของคุณ , ซึ่ง reports จะมีรายละเอียดดังนี้

--จำนวนการเปิดหน้าเวบนั้น ๆ
--ค่าเฉลี่ยในการใช้เวลาอยู่กับหน้าเวบนั้น ๆ ของผู้เยี่ยมชม
--ผู้เยี่ยมชมที่เพิ่งเข้ามาหน้าเวบนั้น ๆ เป็นครั้งแรก และ ผู้เข้าเยี่ยมชมซ้ำอีกครั้ง
--ผู้เยี่ยมชมแบ่งตามภูมิศาสตร์ สถานที่ตั้ง และ ภาษา
--browser และ platform ที่เขาใช้เปิด website ของคุณ
--ข้อมูลการคลิกต่าง ๆ

บางทีนี่ อาจจะให้ idea อะไรบางอย่างกับคุณได้ว่า Google Analytics จะช่วยให้คุณวัดความสำเร็จของคุณ ในการปรับแต่ง website ของคุณ ได้อย่างไร, และ มั่นใจในการเลือก design ต่าง ๆ . ที่เจ๋งสุดก็คือ หลังจากปรับแต่งสู่ invitation mode หลัง เปิดตัวเมื่อเดือน November ปี 2548 เรายินดีที่จะบอกคุณว่า ตอนนี้.. Google Analytics available for everyone พร้อมแล้วสำหรับทุกคน, ดังนั้นคุณสามารถที่จะเริ่มวิเคราะห์ website ของคุณได้ทันที

*******************************************************************************

ถ้าคุณเป็นคนทำ AdSense และคุณมีเวบไซต์ที่เนื้อหาดีเยี่ยม, แต่ว่าสิ่งที่คุณต้องการคือ
1. ให้คนรู้จักเวบของคุณมากขึ้น
2. ให้ผู้อ่านที่จงรักภักดีของคุณ รู้เมื่อมีการใส่เนื้อหาใหม่ ๆ ลงในเวบไซต์ของคุณ ดังนั้นพวกเขาสามารถเข้ามาเยี่ยมเวบไซต์ของคุณได้ง่าย ๆ --เพียงแค่คลิกปุ่มเท่านั้น
โดยการสร้าง traffic, คุณสามารถทำให้คนเข้ามาอ่านเวบไซต์ของคุณมากขึ้น และ แน่นอน AdSense ads ของคุณก็จะผ่านสายตาคนมากขึ้นด้วย. นี่คือสิ่งที่ Google Toolbar เกิดขึ้นมา. Toolbar ไม่ใช่แค่เอาไว้ search หาเวบไซต์เท่านั้น มันยังสามารถ ป้องกัน pop-up และ ช่วยกรอกฟอร์มต่าง ๆ ได้อีกด้วย ด้วย Google Toolbar 4 ที่เพิ่งจะเปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้ครับ มีคนเป็นหลายล้านเลยครับที่ใช้ Toolbar แล้วทำการเพิ่ม custom buttons เข้าไปยังหน้า browsers. คุณสามารถช่วยให้ผู้เยี่ยมชมเวบของคุณเข้ามาหาเวบไซต์ของคุณได้(และมากขึ้น) เพียงแค่ คลิกเดียว




-- คนทั่วไปจะสามารถเข้าเยี่ยมชมเวบไซต์ของคุณได้จาก Toolbar นั้นเลยครับ
-- ทำการค้นหาภายในเวบไซต์ของคุณ ผ่านจากหน้า Google search box และ คลิกปุ่ม custom ของคุณบน toolbar นั้น ๆ ครับ
-- สามารถขอรับ feeds จากเวบไซต์ของคุณด้วยการคลิก drop-down menu ข้าง ๆ ปุ่ม custom ของคุณ
ฟังดูน่ากลัวมั้ยครับ ..มันไม่น่ากลัวอย่างที่คิดหรอกครับ--สร้างปุ่มของคุณเอง ค่อนข้างจะง่ายเสียด้วยซ้ำครับ. แค่ไปที่ Getting Started page และ submit ปุ่มของคุณเพื่อที่จะนำไปแสดงใน Button Gallery. ตอนนี้ทาง Google มีมากกว่า 700 custom buttons แล้วครับ
ใครจะไปรู้ล่ะครับว่าบางทีคุณอาจจะลงท้ายด้วยการใช้ Google ของผมก็ได้ครับ

If a tree falls in the forest and no one can hear it, does it make a sound? Even more perplexing: if you have a great, content-rich website and nobody visits it, is the content useful? Rather than debate this, I'd like to share with you five ways that Google webmaster tools can help you drive more users to your site and improve the visibility of the site content you've worked so hard to create.

1. Submit all of your pages to the Google index – for free.By using Google Sitemaps to submit your URLs, you help Google's web crawler do a more complete and efficient job of crawling your site. Sitemaps enables you to submit all of your pages to the Google index, and it's particularly useful for making sure that we know about all dynamically generated URLs or pages that are not adequately linked to on your site. But please note: submitting a Sitemap will not guarantee inclusion or influence your PageRank, and isn't a replacement for creating compelling and useful content.

2. Find out how Google sees your site.Once you've made sure we have access to your site, you can see the common words used to link to your pages and that are seen by Google. This allows you to see trends in your site's content, and can help you determine why you may be ranking for particular keywords. You can also see which page has the highest PageRank by month. Some site owners are surprised to find that this isn't always the home page. If an internal page has the highest PageRank, you might consider spending more time optimizing the ads there.

3. Diagnose potential problems.We let you know if, and why, we're having trouble accessing your site or specific pages. If we can't crawl a page, we can't index it -- so fixing any errors we list can help improve your overall coverage. If the AdSense Site Diagnostics tool shows that you're blocking pages from MediaPartners-Google (the AdSense crawler), you can use the robots.txt analysis tool of Google webmaster tools to test changes to that file and make sure those changes allow access. You can also see what pages you are blocking from other Google bots -- this lets you experiment with changes to see how they would affect the crawl of your site.

4. Find out which queries drive traffic to your site.Using Google webmaster tools, learn which Google queries created clickthroughs to your site and where you were positioned in the search results for that query. You can also view data for individual properties and countries as well. For instance, you can see the queries from users searching Google Images in the United States that returned your site in the results. You’ll only see properties and countries for which your site has data.

5. Get re-included.If your site has disappeared from the search results, read through the Google quality guidelines, then correct any problems on your site and request re-inclusion from your Google webmaster tools account. Please keep in mind that the reinclusion request form is only available to people using Google webmaster tools.

There's more.Google webmaster tools are evolving, and we frequently add more features. Stay up to date on the newest features with the Google Webmaster Central blog and get your questions answered on the Google Webmaster Help discussion group.
Here's to building a loyal following for your website and, in turn, optimizing your AdSense earnings

**************************************************************************
ถ้าหากว่าต้นไม้ล้มในป่า..แต่ไม่มีใครได้ยินมัน, คุณว่ามันมีเสียงมั้ย? แล้วถ้าหาก คุณมีเวบไซต์ที่มีเนื้อหาดี ๆ มากมาย แต่ว่าไม่มีใครเข้ามาเยี่ยมชมมันเลย, แล้วเนื้อหาเหล่านั้น มันมีประโยชน์มั้ย? แทนที่จะมานั่งเถียงกันเรื่องนี้, ผมอยากจะแบ่งปัน 5 หนทางที่ Google webmaster tools สามารถที่จะช่วยนำ users มายังเวบไซต์ของคุณ และ ปรับปรุงการพบเห็น ของเนื้อหาบนเวบไซต์ของคุณ ที่คุณได้เพียรพยายามอย่างหนัก ในการสร้าง content ดี ๆ เหล่านั้นขึ้นมา

1. Submit ทุกหน้าของเวบไซต์ของคุณ ใน Google index-ฟรีครับผม ด้วยการใช้ Google Sitemaps เพื่อ
submit your URLs , คุณจะช่วยให้ crawler ของ Google สามารถทำการตรวจสอบเวบไซต์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น. Sitemaps จะช่วยให้คุณสามารถ submit ทุก ๆ หน้าเวบไซต์ของคุณเข้าไปยัง Google index ได้ครับ, และ มันยังเป็นประโยชน์ตรงที่จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่า Google รับทราบเกี่ยวกับ dynamically generated URLs หรือ หน้าที่ไม่ได้มีการทำลิงค์ต่อเนื่องกัน ภายในเวบของคุณเอง อย่างพอเพียง แต่ว่า Note ไว้ด้วยครับว่า : submitting a Sitemap จะไม่ได้เป็นตัว การันตีได้ว่าจะทำให้ PageRank ของคุณจะดีขึ้นนะครับ, และก็ไม่ได้จะมาแทนที่ของการสร้างสรรค์เนื้อหาที่ดีบนเวบไซต์ได้ครับ

2. มาดูกันดีกว่าครับว่า Google มองเห็นเวบไซต์ของคุณเป็นยังไง. เมื่อคุณแน่ใจแล้วว่า Google ได้เข้ามาตรวจดูเวบไซต์ของคุณแล้ว, คุณจะเห็นคำง่าย ๆ ที่จะลิงค์มายังเวบไซต์ของคุณ นั่นแหละครับคือคำที่ Google มองเห็น นี่จะช่วยให้คุณเห็นถึง Trends ในเนื้อหาของเวบไซต์ของคุณ, แล้วก็มันจะช่วยให้คุณพิจารณาได้ว่า อันดับของเวบไซต์ของคุณสำหรับ keywords นั้น ๆ . และคุณยังจะสามารถเห็นได้ด้วยว่า หน้าไหนของเวบไซต์คุณ ที่มี PageRank สูงสุด ในแต่ละเดือนด้วยครับ.เจ้าของเวบไซต์บางคนก็ประหลาดใจได้ครับที่ว่า ไม่ใช่หน้าแรกของเวบไซต์ของเขาเอง. ถ้าหน้าต่าง ๆ ภายในเวบไซต์ของคุณ มี PageRank สูงที่สุด, คุณอาจจะพิจารณาที่จะใช้เวลามากขึ้นในการปรับแต่งโฆษณา AdSense ในหน้านั้นๆ ครับ

3. ตรวจสอบสาเหตุสำคัญ, เราจะทำให้คุณรู้ ถ้ามันเกิดปัญหาขึ้น และ สาเหตุมาจากอะไร, ถ้า Google ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบเวบไซต์หน้าไหนของคุณได้ Google ก็ไม่สามารถ index หน้าเวบของคุณได้-- ดังนั้น การแก้ไข errors ที่ทาง Google list ไว้ให้ จะช่วยให้ปรับปรุงภาพรวมให้ดีขึ้น. ถ้า AdSense Site Diagnostics tool จะแสดงให้เห็นว่าหน้าไหนของคุณจาก MediaPartmers-Google (The AdSense crawler) คุณสามารถใช้ไฟล์ robots.txt ลองใช้ tool สำหรับการวิเคราะห์ ของ Google webmaster tools เพื่อทดสอบว่าไฟล์นั้น ทำให้ Google สามารถเข้าไปหน้านั้นๆ ได้. คุณยังสามารถเห็นได้ว่า หน้าไหนที่ถูก block จาก Google bots--นี่จะช่วยให้คุณเห็นว่าการทดลองเปลี่ยนแปลงของคุณมีผลกระทบกับการ crawl เวบไซต์ของคุณหรือไม่

4. ค้นหาว่า คำค้นหาคำไหนที่นำพา traffic มายังเวบไซต์ของคุณ. ใช้ Google webmaster tool, เพื่อตรวจสอบว่าคำค้นหาคำไหนที่พา user เขามายังเวบไซต์ของคุณ และ ผลการค้นหานั้น ๆ อยู่อันดับไหนในหน้านั้นๆ . คุณยังสามารถดู data สำหรับแต่ละคุณสมบัติ และ ประเทศ ได้ด้วยครับ. เช่นคุณสามารถเห็น การค้นหาจาก users ที่ค้นหา Google images ใน United States ซึ่งถูกนำมายังเวบไซต์ของคุณ จากหน้า results.


5. ทำให้เวบคุณกลับมาอยู่ในฐานข้อมูลของ Google อีกครั้ง, ถ้าเวบของคุณหายไปจากหน้าผลการค้นหา, อ่านเกี่ยวกับ Google quality guidelines ใหม่อีกทีครับ, จากนั้นก็แก้ไขปัญหาในเวบคุณ และ ทำการร้องขอให้ Google ทำการนำเวบของคุณเข้าไปอยู่ในฐานข้อมูลของ Google อีกครั้งครับ ด้วย request re-inclusion ที่มีอยู่ใน Google webmaster tools account ของคุณ. ยังไงก็ต้องจำไว้ด้วยครับว่า การร้องขอให้ Google นำเวบของคุณเข้าไปอยู่ในส่วนของผลการค้นหาอีกครั้ง จะมีให้เฉพาะคนที่ใช้ Google webmaster tools ครับ


ยังมีอีกครับ Google webmaster tools กำลังทำการพัฒนา, ดังนั้น ทาง Google จะทำการเพิ่ม features ใหม่ๆ อยู่บ่อยๆ เลยครับ.ยังไงก็ต้องคอยติดตามกันนะครับ ที่ Google Webmaster Central blog แล้วก็สามารถหาคำตอบให้กับคำถามของคุณได้ที่ Google Webmaster Help discussion group

ถ้าคุณได้ติดตาม blog นี้ในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา, คุณจะได้อ่านเกี่ยวกับเครื่องมือเจ๋ง ๆ ที่จะช่วยในการทำ AdSense ของคุณมากมายเลยทีเดียว... แต่ถ้าหากว่าไม่, แล้วคุณจะรออะไรอีกล่ะครับ เลื่อนหน้าจอลงไปอ่านเกี่ยวกับ เทคนิคต่างๆ ที่เราได้ชักชวนให้ใช้กันในระหว่าง เดือนแห่งการ optimizationนี้เลยดีกว่าครับ. และตอนนี้คุณมีเครื่องมือเจ๋งๆ เยอะแยะอยู่เพียงแค่ปลายนิ้วมือของคุณแล้ว, ม้วนแขนเสื้อขึ้น แล้วก็เริ่มทำการปรับปรุงเวบไซต์ของคุณกันเลย, โอเค ผมจะรอจนกว่าคุณจะอัพเดทเวบของคุณเสร็จแล้วกันนะครับ.......(เวลาผ่านนน..ปายยยย)

เย้!!! ยินดีด้วยครับ ตอนนี้เวบไซต์ของคุณพร้อมสำหรับ user ผู้กระตือรือร้นของคุณแล้ว, แต่ว่า.ช้าก่อน..มันจะไม่ดีกว่าเหรอครับ ถ้า มีคนรู้จักเวบของคุณมากขึ้น และ ชื่มชอบกับผลไม้ แห่ง แรงงานของคุณ (เหมือนประมาณว่า..ผลสำเร็จแห่งความเหนื่อยยากของคุณอ่ะครับ) แน่นอน มันย่อมจะดีกว่าใช่มั้ยครับ-- ดังนั้นสัปดาห์นี้ เราจะมาเจาะกันถึงเรื่องของ ทิป และ tricks ต่าง ๆ ที่จะนำพาเอา traffic มายังเวบไซต์ของคุณ

เราได้ทำการ form ทีมผู้เชี่ยวชาญจากสาขาต่าง ๆ จาก ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆของ Google เพื่อจะมาแนะนำคุณ ให้ใช้งาน ผลิตภัณฑ์นั้น ๆ เพื่อปรับปรุง site traffic และ เนื้อหาบนเวบคุณ. ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะขโมย any of their fire (แปลไม่ออกครับ แหะ แหะ), ประมาณว่า ผมไม่ได้คิดจะแย่งความร้อนแรงจากใครมานะครับ..ดังนั้น ผมก็จะแค่ กระตุ้นให้คุณเกิดความอยากรู้กันขึ้นมาเท่านั้นเองครับ

- หาข้อมูลเกี่ยวกับ เครื่องมือของ webmaster ที่เอาไว้ช่วยคุณ บอก crawlers ของกูเกิล เวลามันเข้าไปเยี่ยมเวบไซต์ของคุณ

-ทำให้เวบไซต์ของคุณ รองรับการเข้าชม และ คลิก ได้เป็น ล้าน ๆ คน ด้วยนะครับ

-ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ user ของคุณ, จากหน้าที่มีผู้เข้าชมจำนวนมาก ๆ และ ดูว่า เขาใช้เวลาอยู่นานขนาดไหน

สุดท้าย, ก่อนจบสัปดาห์นี้ เรามีบางอย่างพิเศษให้คุณ, ผมจะไม่เปิดเผยซะก่อนตอนนี้หรอกครับ, แต่ก็พอจะบอกได้เลยว่า..มันคุ้มค่ากับการรอคอย แน่นอนครับ

I hope this week you've discovered a new feature or learned how to improve your use in a way that will benefit your site and your earnings. Today I’m going to share my top 3 tips for getting the most out of AdSense.As a bonus, my advice will also help you climb the social ladder at your school or workplace. Prepare to grow your revenue...and your popularity.

1. Be friendly with everyone – If you want to be more popular in school, you can’t only get to know the drama students -- you have to make friends with the basketball team, the marching band, and the A/V club too. So many friends competing for your time makes it more valuable, just like more advertisers competing for your ad space makes it worth more.

Without opting in to text, image, and video ads, you can't expect to get the most revenue possible for your ad space -- you need more advertisers competing in order to bid up the price of your ads. When the highest-paying advertiser wins, you do too!

2. Look your best – You don’t have to be a beauty queen or a male model to be popular, but you should present yourself as well as possible. To get the most out of AdSense, make your site attractive to advertisers spending site targeting dollars. As Natalie mentioned yesterday, site targeting revenue can have a big impact on your total earnings. When an advertiser checks out your site, let them see great formats, like the medium rectangle, in highly visible above-the-fold placements.

3. Be well rounded – In high school, being a talented football player or a skilled musician makes you interesting. But being a star quarterback who plays first violin, gets straight As, and still finds time to volunteer at the local soup kitchen makes you amazing. If you’re only successful with the standard AdSense ads, it’s time to expand. Try link units, referrals, and AdSense for search and track the results. You might be surprised what your next success will be. I wish you the best of luck with these AdSense tips
-- and hope that this new-found popularity doesn't go to your head!

******************************************************************************

หวังว่าสัปดาห์นี้ คุณจะได้ค้นพบ feature ใหม่ ๆ หรือ ได้เรียนรู้ว่าจะปรับปรุงการใช้งานเดิมไปในทางที่จะช่วยสร้างผลกำไร ให้กับเวบไซต์ของคุณได้ดีขึ้นนะครับ วันนี้ ผมจะมาแบ่งปัน 3 เทคนิคเด่น ๆ ที่ได้ผลดีมากในการทำ AdSense.เพื่อเป็น bonus, คำแนะนำของผม จะสามารถใช้ได้กับการไต่เต้า ในโรงเรียน หรือ ที่ทำงานของคุณอีกด้วย. เตรียมตัวเพิ่มรายได้...และความ popular ของคุณได้เลยครับ

1. เป็นมิตรกับทุกคน-- ถ้าคุณต้องการความมีชื่อเสียงในโรงเรียน, ไม่ใช่ว่าคุณควรจะรู้จักกับ นักเรียนการแสดงในโรงเรียนของคุณ-- คุณจะต้องสร้างเพื่อน ๆ ใน ทีมบาสเก็ตบอล, วงดนตรีของโรงเรียน, แล้วก็เพื่อนๆ ใน A/V club ด้วย. มีเพื่อนมากมาย แข่งขันกันเพื่อทำให้เวลาของคุณจะมีค่ามากขึ้น, เหมือนๆ กับ advertisers ที่แข่งขันกัน เพื่อแย่งพื้นที่โฆษณาของคุณ ซึ่งจะทำให้มันมีค่าเพิ่มขึ้น
ถ้าคุณไม่เลือกทั้ง โฆษณาที่เป็น text, image, และ video, คุณก็อย่าไปหวังว่าจะได้รายได้สูงสุดที่จะมาบังเกิดกับพื้นที่โฆษณาของคุณเลยครับ--คุณต้องการผู้ทำโฆษณาให้มาก ๆ เข้าไว้ เพื่อแข่งขันกันแย่งประมูลพื้นที่โฆษณาของคุณ

2. ดูดีที่สุดในแบบของคุณเอง--คุณไม่จำเป็นจะต้องสวยสง่า หรือ หล่อระดับนายแบบ เพื่อที่จะเป็นที่รู้จัก, แต่ว่าคุณควรจะเป็นตัวของตัวเองให้ดีที่สุด. เพื่อให้ได้ผลดีจาก AdSense, คุณต้องทำเวบไซต์ของคุณให้เป็นที่ดึงดูดใจต่อผู้ลงโฆษณาเพื่อให้เขายอมจ่ายเงินมาลงโฆษณาที่คุณ อย่างที่ Natalie บอกไว้ ว่ารายได้จาก site targeting สามารถสร้าง big impact ต่อรายได้รวมของคุณได้เลยทีเดียว. เมื่อ ผู้ทำโฆษณาพบเวบไซต์ของคุณ, จงให้เขาเห็น รูปแบบที่ดีที่สุดของการลงโฆษณา, เหมือนกับ medium rectangle, ในส่วนที่เห็นได้ชัดที่สุด นั่นก็คือ above-the-fold

3. Be well rounded (อันนี้จะหมายถึง ดีกับคนรอบๆ ตัว เสมอ ๆ หรือ ดีไปกับทุก ๆ คนทั่ว ๆ ไปก็ไม่แน่ใจครับ) --ใน high school, ถ้าเล่น football เก่งๆ หรือ เป็นนักดนตรี เก่ง ๆ นั่นก็ทำให้คุณเป็นที่สนใจได้. แต่ว่า ถ้าเป็นดาวเด่นในตำแหน่ง quarterback ซึ่งเล่นเป็นมือแรกของ violin, นั่นแหละ สุดยอด และถ้ายังหาเวลาที่จะเป็นอาสาสมัครในการร่วมทำซุปในครัวได้อีก นั่นแหละ ถึงจะทำให้คุณดู amazing" ถ้าคุณแค่ประสบความสำเร็จด้วย AdSense ตามมาตราฐานธรรมดา..มันถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องขยายการใช้งานมันเพิ่มขึ้น.ลองใช้ Link units, referrals แล้วก็ AdSense for search ดูครับ แล้วลองดูผลลัพธ์ที่ได้. คุณอาจจะแปลกใจในความสำเร็จที่มากกว่าที่คุณคิดว่าสำเร็จแล้วเลยล่ะครับ. ขอให้ทุกท่านโชคดีกับ tips AdSense นี้นะครับ--แล้วหวังว่า this new-found popularity doesn't go to your head! (อันนี้แปลไม่ถูกอ่ะครับ)

สำหรับการ เทคนิค การ optimization วันนี้, ผมต้องการเน้นตรงส่วนของ site targeting Onsite Advertiser Sign-up อันนี้เอาไว้สำหรับช่วยให้ ผู้ต้องการลงโฆษณา เลือกจ่ายแบบ CPM จ่ายต่อการแสดงโฆษณา 1 ครั้ง จ่ายระบุให้กับเวบของคุณเลย และ จัดการจากหน้าเวบคุณได้เลยครับ

ในฐานะคนทำ AdSense , คุณจะมีส่วนของ Onsite Advertiser Sign-up อยู่แล้ว
ผู้ลงโฆษณาจะเห็นส่วน Sign-up นี้ก็ต่อเมื่อ เขาได้คลิกตรงคำว่า "Advertise on this site" ซึ่งจะมีลิงค์อยู่ใน โฆษณา AdSense อยู่แล้วครับ. นี่จะเป็นโอกาสทางการค้า ในการโฆษณาเวบของคุณต่อ ผู้ต้องการลงโฆษณา, ดังนั้นอย่าปล่อยให้หน้า Sign-up ของคุณ เป็นค่า Default นะครับ, หน้านี้จะเอาไว้โน้มน้าวผู้ทำโฆษณาว่า ทำไมเขาจึงควรลงโฆษณาแบบ site target บนเวบของคุณ. เขียนบทความที่คม ๆ โน้มน้าวให้ผู้ต้องการลงโฆษณาเขามาลงโฆษณากับเวบของคุณ แล้วก็บอกผู้ทำโฆษณาว่า เวบของคุณมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร

คุณจะได้กำไรเมื่อ ผู้ลงโฆษณาตกลงโฆษณาบนเวบไซต์ของคุณ, และยิ่งมีการแข่งขันเพื่อลงโฆษณาในเวบไซต์ของคุณมาก ๆ ก็หมายถึง เงินรายได้ของคุณที่จะเพิ่มมากขึ้นไปด้วย. แค่เพียงจำไว้ครับว่า ทำหน้า sign-up ของคุณให้เป็นมิตรกับผู้ต้องการลงโฆษณาไว้เสมอนะครับ

Search no further than your own site
ไม่ต้องไปค้นหาที่ไหนอีกนอกเหนือจากเวบคุณ
ถ้าคุณยังไม่ได้ลองใช้ AdSense for Search ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะมาก ๆ ครับ ที่จะทดลองใช้ เรามีความยินดีมาก ที่จะประกาศให้คุณได้รู้ว่า ตอนนี้ คุณสามารถแสดงผลการค้นหาภายใต้เวบไซต์ของคุณเองได้แล้วครับ. ด้วยวิธีนี้ , คุณมีอิสระในการเสนอให้ users ค้นหาเวบต่างๆ ภายใต้หน้าตา และ ความรู้สึกว่ายังอยู่ในเวบของคุณ. ยกตัวอย่างเช่น, คุณสามารถแสดงไว้ใต้ header และ footer, และ site navigation ตามที่คุณสร้างไว้ได้เลยครับ


เพื่อจะใช้ option นี้, เพียงแค่เลือก "Open results within my own site" radio button เมื่อคุณสร้าง Code ของ AdSense for Search แล้ว คุณยังต้องระบุหน้าที่คุณต้องการแสดงผลของการค้นหาด้วยครับ

เรามี code สองชุด ให้คุณ : ชุดแรก จะเป็นชุดสำหรับ search box, และ อีกชุดหนึ่งสำหรับ ผลของการค้นหา. เอา Code ชุดแรกไปวางไว้บนหน้าที่คุณต้องการให้ user เห็น search box ของคุณ, และ Code ชุดที่สอง ให้ไปวางบนหน้าที่คุณต้องการให้ผลของการค้นหา แสดง. ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ users ทำการค้นหาบน AdSense for Search box, user จะถูกพาไปยังหน้าซึ่ง คุณได้ตั้งค่าเอาไว้ว่า ให้ ผลการค้นหาไปแสดงที่หน้าเวบนั้นๆ
และด้วยการที่ feature นี้เป็นส่วนหนึ่งของ AdSense for search, ดังนั้นพวก Competitive Ad Filter and site-flavored search จะยังเป็น normal. คุณสามารถหารายละเอียดสำหรับการติดตั้ง option ใหม่นี้ ใน Help Center. ให้ระลึกไว้ในใจด้วยว่า ถ้าคุณต้องการให้ search box ที่มีอยู่แล้วของคุณ ได้ประโยชน์มากขึ้น ด้วย option ใหม่นี้, คุณต้องวาง search box code ใหม่นี้แทนที่ code ของ search box เดิมของคุณ

Referrals around the world

ย้อนไปเมื่อเดือน May, ที่ทาง Google ได้เปิดตัว ปุ่ม referral แบบใหม่ มาถึงตอนนี้ ได้มีภาษาอื่นๆ เพิ่มมากขึ้นด้วยครับ ทีนี้เราก็มีสีให้เลือกหลายสี และ ก็มี options ต่าง ๆ ด้วย ปุ่มใหมนี้เรียบ ๆ และ ดีต่อหน้าเวบ ด้วย GIF format-- ทั้งหมดเหมาะกับการทำให้กลมกลืนกับเวบไซต์ของคุณมากขึ้น


Not only will you benefit from the extra earnings, but your users will learn more about other products such as Picasa, Firefox, and AdWords. To begin displaying the new referral buttons, simply choose Referrals from the AdSense Setup page of your account, then select the product you'd like to refer users to on your pages.


คนที่ทำ Google AdSense พบว่า เป็นประโยชน์อย่างมากในการวางปุ่ม referrals ไว้ในที่ที่เหมาะสม คุณทำ photo blog หรือเปล่าครับ? ลองใช้ Picasa referral สิครับ , หรือต้องการเพิ่มรายได้ให้ web hosting site ของคุณมั้ย? ลองวาง Firefox referral button สิครับ แล้วก็นั่งรอดูรายได้ที่เติบโตขึ้นได้เลย

อย่าลืมว่าคุณสามารถจะวาง referrals ด้วย text link ได้ด้วยนะครับ. ซึ่งจะง่ายมากในการใส่ลงไปบนหน้าเวบของคุณ และ ให้ผลได้ดีกว่า buttons ต่อไปนี้คือ tips ที่จะช่วยสร้างรายได้ให้มากขึ้นด้วยการใช้ text links ครับ

-- คุณสามารถ อนุญาตให้ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์ของคุณได้ใช้งานผลิตภัณฑ์เดียวกันกับที่คุณได้ทดลองใช้แล้วสนุกกับมัน ได้เลยครับ
--ลองใช้ text link inherit the font และ หน้าตาของเวบไซต์ครับ ดังนั้น text link เหล่านั้นก็จะเข้ากันได้ดี กับ ตัวหนังสือ และ ขนาดเดิมของเวบไซต์คุณ


ถ้าคุณยังไม่ได้ใช้ referrals บนเวบไซต์ของคุณ, คุณอาจจะพลาดอะไรไปแล้วล่ะครับ! คนทำ AdSense หลายๆ คนเนี่ย ได้แจ้งให้เราทราบมาว่า พวกเขาได้เห็นรายได้เพิ่มขึ้นตั้งแต่ ได้ทดลองวาง referral ลงไปบนหน้าเวบครับ. มีผู้ทำ AdSense คนนึงครับ บอกว่า ปกติจะมีคนเข้าชมเวบไซต์ ประมาณวันละ 3000 คน, และปกติเนี่ยก็มีรายได้แค่วันละ 15$ เองครับ (โห...แค่วันละ 15เ หรียญเองเหรอ แว๊ก ๆ ๆ อิจฉา) จาก AdSense for content ครับ แต่ว่ามาวันนี้ เขาได้ลองติด Firefox referrals และ เขาก็มีรายได้เพิ่มขึ้นมา I've already made an extra $17.20 (หมายถึงมันเพิ่มเป็น 17.20 หรือ เพิ่มมาอีก 17.20 หว่า..ไม่แน่ใจครับ) --แต่ว่าวันแบบนี้มันยังไม่จบแค่นี้..

ไม่เพียงแค่คุณจะได้ประโยชน์จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นครับ, แต่ผู้ใช้งานของคุณ จะยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์ เช่น Picasa, Firefox และ AdWords มากขึ้นอีกด้วยครับ.เพื่อเริ่มการติด referral buttons ลงไปบนหน้าเวบของคุณ คุณก็เพียงแค่เรือก Referrals จาก AdSense Setup ของ Account ของคุณ, แล้วจึงเลือกผลิตภัณฑ์ที่คุณอยากส่งผ่านให้กับผู้ใช้งานเวบไซต์ของคุณ ผ่านหน้าเวบไซต์ของคุณได้เลยครับ

ถึงจุดนี้แล้ว, คุณก็คงรู้จักกับ AdSense ของคุณ พอ ๆ กับ รู้จัก หลังมือของคุณแล้วล่ะเน๊าะ. คุณเอาขอบมันออก, เปลี่ยนตำแหน่งการวาง AdSense มาไว้ตรงส่วน above the fold, แล้วก็รอดูผลของการเปลี่ยนแปลงอยู่. ในระหว่างนี้, คุณอาจจะมีคำถามเกิดขึ้นอีกว่า....แล้วมีอะไรที่เราจะทำการ optimize มันได้อีกมั้ยอ่ะ?

ผมยินดีกับคำถามนี้มากเลยครับ AdSense มันไม่ใช่แค่ ad ธรรมดาครับ : ภายใน account ของคุณ, มันมีลูกเล่นอะไรอีกหลาย ๆ อย่าง ซึ่งคุณอาจจะไม่ได้มองเห็นมันเลยครับ. สัปดาห์นี้ เราจะมาพิจารณากันถึงพวก ลูกเล่นต่าง ๆ เหล่านั้นที่มันเป็นอัญมณีที่คนมักมองไม่เห็น แต่มันสามารถเพิ่มรายได้ให้คุณได้. อย่างที่เขาว่ากันแหละครับ, อย่าวาง AdSense ทั้งหมดของคุณไว้ในตะกร้าใบเดียว :

มาทำให้ AdSense ของเรามันหลากหลายด้วยเครื่องมือต่าง ๆ กันดีกว่าครับ
--บางทีเวบไซต์ของคุณ อาจจะเต็มไปด้วย เนื้อหาเจ๋ง ๆ ซึ่งผู้เข้ามาเยี่ยมชมจะต้องชอบ (แค่เพียงขอให้เขาเจอสิ่งที่เขาอยากจะเจอครับ) หรือคุณอาจจะได้ใช้ serch model ไปแล้ว แต่ว่าไม่รู้วิธีการทำเงินจาก การ search เหล่านั้นครับ ดังนั้น ก็ลอง ใส่ใจกับ AdSense for search ของคุณดูด้วยครับว่ามีลูกเล่นอะไรให้เล่นอีก

--เมื่อ AdSense ของคุณเป็นที่เตะตาแก่ผู้ใช้งานเวบไซต์ของคุณแล้ว, AdSense ของคุณมันก็ควรจะสามารถเรียกร้องความสนใจจากผู้ใช้งานให้ได้อีกด้วย คุณสามารถใช้ section targeting เพื่อเน้นส่วนสำคัญของเนื้อหาหน้านั้น ๆ ได้ด้วยครับ( แน่นอนครับ ว่าทั้งบทความของคุณนั้นมันสำคัญ แต่ว่า มันก็ไม่ได้สำคัญเท่ากันหมดทั้งบทความนี่ครับ)

--คุณรู้อยู่แล้วว่าเวบไซต์ของคุณยอดเยี่ยม ผู้ลงโฆษณาก็รู้เหมือนกันว่าเวบไซต์ของคุณเยี่ยม มันจะไม่ดีกว่าเหรอครับถ้าเขาสามารถเจาะจงที่จะลงเวบไซต์กับเวบคุณโดยตรงเลยน่ะครับ โดยการใช้ Onsite Advertiser Sign-up.

เราจะทำการสำรวจเกี่ยวกับ ลูกเล่นต่าง ๆ ให้ลึกลงไปอีกครับ ยังไงก็แวะกลับมาดูเพิ่มเติมได้ครับ
(ผมก็จะตามแปลเอามาให้อ่านกันครับ... อยากให้คนไทย..มีทางเลือกในการหารายได้เพิ่มครับ)

ฉันเข้าใจความรู้สึกของการโยนเงินทิ้งไปทางโน้นที ทางนี้ที, แต่ว่า มันจะน่าหัวเราะมากกว่าถ้าจะโยนเงินหลายร้อย usd ทิ้งไปทุก ๆ วัน. นี่คือความรู้สึกที่เธอคนนี้รู้สึกกับการ Optimization มันมีทางง่าย ๆ ตั้งหลายทางที่จะสามารถเพิ่มรายได้ให้กับ คนทำ AdSense ได้, แต่ว่าคนทำ AdSense ก็มักจะมองข้ามไปว่า มันง่ายเพียงใดในการสร้างความเปลี่ยนแปลง. ลองมาดูตัวอย่างของคนทำ AdSense คนนึงก็แล้วกันครับ เขาได้ลองเปลี่ยน 468x60 banner ไปเป็น 300x250 rectangleและ เห็นได้เลยว่ารายได้เพิ่มขึ้นเป็น double! หลังจากนั้น, แน่นอน เขาก็รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ลองทำการเปลี่ยนเสียตั้งนานแล้ว

เป้าหมายของฉันคือ ต้องการแน่ใจว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นกับคุณ เพื่อคุณรู้แล้วว่าคุณสามารถทำเงินได้มากขึ้น--ถ้าคุณทำการปรับปรุงเสียแต่เนิ่น ๆ . ดังนั้น มาทำ biggest bang for the buck กันดีกว่า

1.) ให้แน่ใจว่า colors are appropriate ของคุณ เหมาะกับ เวบไซต์คุณ และ ตำแหน่งการวาง การเปลี่ยนแปลงสีสัน และ ตำแหน่งการวางนี่ง่ายมาก ๆ และ สามารถเพิ่มรายได้ให้คุณสูงสุดถึง 4x

2.) เมื่อ เลือกรูปแบบ AdSense, จำไว้เสมอว่า : "ยิ่งใหญ่ยิ่งดี" ดังนั้นคุณก็ต้องการมั่นใจว่ารูปแบบที่เลือกเหมาะกับพื้นที่ในเวบของคุณ, ใช้ 160x600 แทน 120x600 แล้วลองใช้ rectangles มาก ๆ ตามที่คุณต้องการ 336x280 และ 300x250 เป็นสองอันที่มีประสิทธิภาพที่ดีครับ และ ด้วยการที่เจ้าสอง format นี้มัน รองรับโฆษณาที่เป็น image และ video ads ด้วยครับ ดังนั้นก็จะมีโฆษณาเยอะขึ้นสำหรับเลือกมาลงในเวบไซต์ของคุณ มากกว่า AdSense format รูปแบบอื่น ๆ

3.) เหมือนที่ Geoff(คนที่มาสอนเรื่อง Set your site on fire! น่ะครับ) ให้แน่ใจว่าคุณได้วาง AdSense ของคุณไว้ในที่ ที่ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์ของคุณจะเห็นมัน นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม "above the fold" จึงเป็นที่นิยมวาง AdSense Ad เอาไว้ครับ, ก็เป็นเพราะว่า ผู้ใช้งานเวบไซต์ส่วนใหญ่มักจะไม่ต้องการเลื่อนลงมาดูหน้าเวบไซต์ ด้านล่าง ๆ . ในทางเดียวกัน, ผู้คนมักจะมองหา menu bar ทางด้านซ้ายของหน้าเวบไซต์ครับ ดังนั้นถ้าเราวาง AdSense Ad ไว้ตรงนั้น..มันก็เลย HOT!
ถ้าหน้าเวบไซต์ของคุณเอื้ออำนวยให้วางได้นะครับ อยากให้ลองวางโฆษณาไว้ในเนื้อหาไปเลย : โดยวาง rectangle ไว้ตรงกลางระหว่างบทความ นั่นไม่เพียงแค่จะช่วยให้ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์ของคุณอ่านโฆษณานั้นแล้ว ยังช่วยให้ผู้ใช้งานเวบไซต์ของคุณได้มีการพักสายตาด้วยครับ

ลองทำ เทคนิค เหล่านี้ดูสิครับ-- มันอาจจะทำให้คุณเสียเวลาซัก 5 นาที หรือ ซัก ชั่วโมงนึง แต่ว่าคุณไม่รู้หรอกว่ามันจะสามารถทำเงินให้คุณได้ หรือไม่ ถ้าคุณไม่ลองทำ.คุณมีอะไรจะเสียล่ะ?

Content is king
เนื้อหาคือ ราชา (แหวะ..แปลแล้วแหม่ง ๆ แฮะ)
ก็อย่างที่รู้ ๆ กันนะครับว่า AdSense ทำงานด้วยการตรวจหน้าเวบไซต์ของคุณเพื่อดูว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร, จากนั้นก็จะทำการส่งโฆณาที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหานั้น ๆ มาแสดง. นั่นหมายความว่าถ้าเนื้อหาของคุณมีจำกัด, ก็จะยากต่อการทำความเข้าใจของ ตัวโปรแกรมที่ถูกส่งมาจาก Google เพื่อตรวจสอบเวบไซต์ของเราว่าเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร. แล้วผลที่จะเกิดก็คือ คุณอาจจะเห็นโฆษณาที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันกับเนื้อหาบนเวบไซต์ของคุณ, หรือไม่ก็เป็นโฆษณาเพื่อการกุศล

วิธีแก้ : ทำให้หน้าเวบของคุณเต็มไปด้วยเนื้อหาที่ดึงดูดความสนใจ.ยิ่งเนื้อหาของคุณเป็น text ที่จัดเตรียมเอาไว้เพื่อ crawler (โปรแกรมที่เข้ามาตรวจหน้าเวบเรา) ก็จะยิ่งง่ายต่อระบบของ Google AdSense ที่จะดูว่าหน้าเวบนั้น ๆ ของเราเกี่ยวกับอะไร, และ ก็จะทำให้คุณได้โฆษณาที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหามากขึ้น. นี่จะเป็นส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ AdSense ของคุณได้, อยากให้คุณคิดถึงผลที่จะเกิดขึ้น ก็จะดีต่อประสบการณ์ของผู้เยี่ยมชมเวบไซต์ของคุณด้วย ไม่อยากให้คุณคิดถึงแต่ว่าจะมีโฆษณาของ ผู้ทำโฆษณานั้นๆ นี้ ๆ มาโชว์หรือไม่ครับ

นี่คือสมการง่าย ๆ ที่ได้ผลชะงัด
1. หน้าที่อัดแน่นด้วยเนื้อหา = โฆษณาที่ตรงเป้าหมาย (ตรงกับเนื้อหาบนหน้าเวบ)
2. โฆษณาที่ตรงเป้าหมาย+ผู้ใช้งานที่สนใจ = CTR สูง และ Conversion rates ก็สูงด้วย
3. CTR สูง และ Conversion rates ก็สูงด้วย = ความสำเร็จ !!!

ข้อควรจำ -- คุณสามารถใช้ page section targeting เพื่อให้เจ้า crawler เน้นไปตรวจดูที่หน้านั้น ๆ ที่ทีเนื้อหาเยอะ ๆ มากกว่าหน้าอื่น ๆ , หรือว่าตอนคุณวางโฆษณาหลายๆ อัน (สูงสุดได้ 3 ad unit) ลงบนหน้าเดียวกัน และ ต้องการให้มันตรงกับแต่ละส่วนของเนื้อหา ก็ใช้ page section targeting ได้ครับ

Colors that make cents (and dollars)

ฉากที่ 1 : คุณได้ก้าวเข้ามาสู่ ห้อง dinner ที่สวยหรูและ ดูเป็นทางการ ตกแต่งด้วยผ้าไหมสีงาช้างในทุก ๆ มุม แขกเหรื่อล้วนแต่งตัวกันในชุด ทักซิโด และ เสื้อคลุม ภายใต้แสงไฟหรี่ ๆ อันสุดแสนจะโรแมนติก. ขณะที่คุณกำลังจ้องมองไปรอบ ๆ ห้อง, ทันใดนั้นสายตาของคุณก็พลันไปตกอยู่ตรงที่ แขกคนหนึ่ง ซึ่งใส่ชุดทักซิโด สีส้มจี๊ด และ ใส่หมวกสีแดงม่วง

ฉากที่ 2 : คุณกำลังเดินทอดน่องอยู่บนถนนที่ทันสมัยที่สุดในเมืองที่ทันสมัยสุด ๆ , บริเวณรอบ ๆ ประดับประดาไปด้วย ป้ายโฆษณาหรูหรา ฉูดฉาด และ ตู้ display ที่มีชีวิตชีวา รถสปอร์ตหรูหราส่งเสียงคำรามของเครื่องยนต์ผ่านหน้าคุณไปยังร้านอาหารระดับ 4 ดาวถัดไปข้างหน้า.ติดกันกับร้านอาหารนี้ คุณก็มองไปที่ตึกปูนเล็ก ๆ ชั้นเดียว ชั้นบนสุด มีป้ายโฆษณา สูง 50 ฟุตรูป กอริลล่า, โฆษณาถึง งานลดราคารถใช้แล้ว ที่กำลังจะจัดขึ้น

ทิป : อย่าให้โฆษณาของคุณ เป็นเจ้าคนใส่ ทักซิโด สีส้ม หรือ ป้ายโฆษณา กอริลล่านั่น ควรจะออกแบบโดยนึกถึงสิ่งอื่น ๆ รอบข้างด้วย

ทำให้โฆษณากลมกลืน ด้วยสีสัน เพื่อลดการรู้สึกถึงการเป็นโฆษณาของ AdSense และ หลาย ๆ กรณีการทำเช่นนี้ สามารถเพิ่มรายได้ให้คุณได้. อย่างไรก็ตาม, คุณควรจะระลึกไว้ในใจเสมอด้วยครับว่า ควรจะดูว่า ผู้ใช้งานเวบไซต์ของคุณตอบสนอง อย่างไรกับการจัดการ adsense ของคุณ (บางทีการทำให้โฆษณา Adsense ของคุณเด่นออกมานิด ๆ หน่อย ๆ ก็ได้ผลดีเหมือนกันครับ แล้วแต่กรณีไป)

ตัวอย่างเวบ Neopets ครับ เวบสำหรับเด็ก เข้ามาเลือกเป็นสัตว์เลี้ยงเสมือนจริงไปเป็นบุตรบุญธรรม,ทำการเลี้ยงดู และ เล่นเกมส์ กับ สัตว์เลี้ยงเสมือนจริงของเด็ก ๆ . คริส เดวิส vice president ฝ่ายการขายของ Neopets ใช้ channels และ A/B testing แล้วพบว่า ตัวสี ที่ทำให้โฆณาของเขาเด่นออกมา หลังจากทำการปรับแต่งโฆษณาของเขา, คริสเพิ่ม CTR ได้ถึง 2 เท่า ซึ่งก็เพิ่มรายได้ของเขาด้วย
ดูตัวอย่างสิครับ

Before

Set your site on fire!
ติดไฟใส่เว็บ...(ไม่ใช่..รองต๊ะ..แลบแปล๊ป เด้อคับ)

เหล่าชาว AdSense Team เขาบอกว่า วัน ๆ ก็คุยกันแต่เรื่องตำแหน่งของการวางโฆษณา AdSense แหละครับว่าตรงไหนจะ Hot (เจ๋ง) กับตรงไหนจะ Cold (เซ็ง)

อันนี้แปลคร่าว ๆ ...เขาว่าเขาไปกินข้าวกับเพื่อนๆ แล้วเจ้าเพื่อนดันมาวาง appetizer ไว้ในตำแหน่งที่ไม่ดี (Cold) (น่าจะสำหรับเขา) เสร็จแล้ว..แทบจะไม่ต้องพูดเลย..หล่อนไม่เสียเวล่ำ เวลา สวาปาม Salmon คำเดียวจบ...หล่อนอร่อยสมใจ..แต่เจ้าหน้าที่ AdSense Team ของเรา เจอไป 20 เหรียญ อิอิ

บทเรียนสำหรับ AdSense ก็คือ ตำแหน่งที่ Cold สามารถทำให้ AdSense กลายเป็น Cost ของคุณได้, ดังนั้นถ้าคุณกำลังพยายามที่จะเพิ่มรายได้, ลองวางโฆษณาไว้ในตำแหน่งที่ Hot บนหน้าเวบไซต์คุณดูสิครับ (แบบว่า..มันก็ยากนะครับที่จะบอกว่าอยู่ตรงไหน เพราะว่าบ่อยครั้งที่เราเล่นตลกกับประสบการณ์ของผู้ใช้งานเวบเรา และเล่นตลกกับ layout ของเวบเราด้วย )

AdSense Tip ทั่ว ๆ ไป ที่คุณ Geoff Vitt เขาพอจะให้เราได้ ก็คือ วางโฆษณาไว้ above the fold (คือส่วนบนของหน้าจอที่ ผู้ใช้งาน เปิดเวบเราปุ๊ป ก็จะเห็นปั๊ป ไม่ต้องเลื่อนหน้าจอลงมาล่าง ๆน่ะครับ) ส่วนบน ๆ นี่แหละครับที่ HOT ส่วน below the fold ก็คือหน้าจอที่ผู้ใช้งานเวบเราต้องเลื่อนลงมาจึงจะเห็น...พวกนี้..Cold ครับ ไม่เจ๋ง. แต่คุณ Vitt เขาก็ไม่แน่ใจนะครับว่าเจ้าเสียงคล้องจอง(ภาษาอังกฤษ below the fold is cold) มันจะทำให้เราจำทิปนี้ได้...แต่เขามั่นใจว่า..มันได้ผลจริง ๆ . นอกจากนี้ เราจะต้องรู้จักเริ่มคิดเกี่ยวกับเรื่องการออกแบบเวบไซต์ของเรา เพื่อที่จะสร้างตำแหน่งที่ hottest (เจ๋งที่สุด) ในการวาง AdSense ให้กับเวบไซต์ของเรา. สิ่งแรกที่เราควรจะนึกถึงก็คือ เวบไซต์ของคุณเป็นแบบแนวตั้งหรือแนวนอน....ถ้าเป็นแนวตั้ง คุณอาจจะลองใส่ blazing skyscraper ตรงด้านซ้ายมือของหน้าเวบไซต์คุณ. และ ในทางตรงกันข้าม, ถ้าเวบไซต์ของคุณเป็นแบบแนวนอน คุณ Vitt เขาบอกว่าเขาชอบ smoking leaderboard วางตรงด้านขวามือ ใต้ชื่อหัวข้อเรื่อง หรือไม่ก็ อยู่ในย่อหน้าแรกของเนื้อหา. สองตำแหน่งนี้ตรงตาม heatmap ที่ AdSense Team ได้แนะนำไว้ และ จะต้องได้ผลดีแน่นอนบนเวบไซต์ของคุณ

ส่วนต่อไปที่ควรจะต้องนึกถึงก็คือเรื่องของการวาง AdSense ไว้ในตำแหน่งที่ hottest ทุกจุดเลยครับ นั่นก็คือกลางหน้าของ above the fold ก็ให้เราวาง out button หรือ half-banner ad formats ตรงนั้นเลย (กลางหน้า) เพราะถ้าจะวาง Ad ตรงกลางหนาเลยมันไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่ ถ้าจะวางโฆษณาไว้ตรงกลางหน้าเลยน่ะครับ. ถ้าพิจารณาเรื่องของหน้าเวบที่เป็นแบบ แนวตั้ง กับ แนวนอน, เราควรจะต้องดูว่า leaderboard, banner หรือ rectangle อันไหนจะเหมาะกับเวบไซต์ของคุณ และ ผู้ใช้งานเวบไซต์ของคุณ มากกว่ากัน เรื่องที่จะต้องพิจารณาต่อไปก็คือว่า Ad นั้นจะเอาไปแทรกไว้ตรงกลางเนื้อหาได้หรือไม่ หรือว่า จะเอาไปวางไว้สำหรับใช้คั่น แบ่งระหว่างสองส่วนของเนื้อหา หรือ navigation ครับ

คุณ Vitt เขาก็หวังว่า เรื่องของเขาเกี่ยวกับการกินข้าว และ ตัวอย่างเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถสร้างตำแหน่งที่ hottest บนเวบไซต์ของคุณได้.
ท้ายสุด : เราจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่า Ad อันไหนจะให้ผลอย่างไร ถ้าเราไม่เคยคิดที่จะทดสอบมัน. ดังนั้นเริ่มค้นหากันได้แล้วครับว่า ตำแหน่งไหนที่ เจ๋ง สำหรับเวบไซต์ของคุณ

P.S. No animals were harmed in the writing of this post!
เขาบอกว่า...ไม่มีสัตว์ถูกทำร้ายใด ๆ ทั้งสิ้น ในการเขียนบทความนี้ครับ

ฮามาก ตาคนนี้..ตั้งแต่แปลมา..อันนี้ฮาสุด ๆ แล้วครับ..ดูสบายๆ ดี...

For every optimization action, there is a user reaction

ทุก ๆ ครั้งที่เราปรับแต่ง มีผลต่อปฏิกิริยาของผู้ใช้งานเสมอครับ
เราสร้างเวบกันขึ้นมาเพื่อให้ดึงดูดคนเข้ามาเยี่ยมชม, แต่ว่า ยิ่งผู้เยี่ยมชมมากขึ้น มันก็ยิ่งมีค่าใช้จ่ายที่แพงขึ้นในการบำรุงรักษาเวบไซต์ของคุณ ดังนั้น เหมือนที่หลาย ๆ คนที่ทำ AdSense ทำกัน, เราก็หันมาทำโฆษณาออนไลน์เพื่อสร้างรายได้กัน แต่ว่าถ้าผู้เข้าเยี่ยมชมเวบไซต์ของคุณไม่เห็นประโยชน์ของโฆษณานั้น (หรือถ้าร้ายกว่านั้น กลายเป็นว่าสร้างความรำคาญให้แก่ผู้ใช้งานซะอีก) คุณมีความเป็นไปได้ที่จะสูญเสียทั้งผู้เยี่ยมชมเวบไซต์ของคุณ และ รายได้ที่จะได้เข้ามาอีกด้วย

นิสัยของผู้เยี่ยมชมเวบไซต์
เนื้อหาของเวบไซต์กับ Google AdSense - ด้วยเทคโนโลยีที่ถูกออกแบบมาให้ AdSense จะกลายเป็นลิงค์ที่สร้างประโยชน์ต่อผู้เข้าเยี่ยมชมเวบไซต์ของคุณ แต่ว่ายังไงซะ..มันก็จะไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาได้เลยครับ ถ้าหากว่าผู้เยี่ยมชมเวบไซต์ของคุณหามันไม่เจอ

1. ไปตรวจดูแต่ละหน้าของเวบไซต์คุณดูนะครับ แล้วลองจินตนาการดูว่า สมมติว่าคุณเป็นคนเข้ามาเยี่ยมชมเวบไซต์ เขาแทบจะไม่ต้องเลื่อนหน้าเลยหรือเปล่า? ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ให้วาง Ad ไว้บนสุดครับ แต่ว่าถ้าตรงส่วนหน้าบน ๆ นั้นเต็มไปด้วยเนื้อหาที่ดึงดูดใจ ก็ให้หลบเอาโฆษณาไปวางด้านล่างสุดแทนแล้วกันครับ, ก็กล้า ๆ กันหน่อยครับ ที่จะเพิ่มรายได้ให้กับพื้นที่ว่างบนหน้าเวบไซต์ของคุณ ด้วยการเพิ่ม ad units ครับ

2.ในการทดลองของ AdSense Team ตัวอย่างที่หน้าใหม่ มักจะทำผิด ก็คือการวาง leaderboard ไว้ที่บนสุดของหน้าเวบไซต์ครับ อย่างไรก็ตาม ได้มีการพบว่า ลักษณะการมองของผู้เข้าเยี่ยมชมเวบไซต์จะมุ่งตรงไปยังจุดแรกใต้หัวเรื่องเลยครับ ดังนั้น คุณอาจจะพบว่าถ้าคุณเลื่อนเอาเจ้า leaderboard ของคุณไปวางไว้ใต้หัวเรื่อง อาจจะเพิ่ม CTR ให้มากขึ้นได้นะครับ

3. จากการทดสอบของ AdSense Team เขาบอกว่า มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดระหว่างการวาง ad unit ไว้ต่อจากเนื้อหาของคุณ กับการวางเอาไว้ ตรงท้ายสุด, ลิงค์ contact us หรือ พื้นที่ว่าง ๆ (จำไว้เลยครับว่าพื้นที่ว่าง ๆ ไม่ได้ทำเงินให้คุณครับ) มีคนทำ AdSenes คนหนึ่ง ซึ่งเขามีขอบรอบ ๆ บทความของคุณ เห็นได้ชัดว่ามี CTR เพิ่มขึ้นถึง 300% ทีเดียวครบั เขาแค่ ย้าย ad unit ของเขาไปไว้ในขอบแค่นั้นเองครับ. ทำนองเดียวกันกับ forums ย้าย leaderboard จากล่างสุดของ forum มาวางไว้ใต้ข้อความโพสต์ล่าสุด ก็สามารถเพิ่ม CTR ได้ถึง 200% ทีเดียวครับ

4. และ ทิปที่ดีที่สุดในหมวดหมู่นี้นะครับ (เดาดิ่ เดาดิ่ อิอิ) : การวาง rectangle unit ไว้ปนกับเนื้อหาเลยครับ โฆษณาในเนื้อบทความมันพอจะเป็น การพักชมโฆษณาของผู้เยี่ยมชมได้ครับ สำหรับผู้เยี่ยมชมที่ล้าจากการอ่านครับ. ไม่เพียงแค่ CTRs จะเพิ่มขึ้น 5%-2%% แต่ว่ายังเป็นโฆษณาที่ฮิตมาก ๆ ของ site-targeting ครับ (คือมีคนทำ adwords ด้วย รูปแบบ rectangle มากที่สุดไงครับ )

แน่นอน, ทิปต่างกันไป มันก็เหมาะกับการจัดวางที่แตกต่างกันครับ. ถ้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถไปดูอ้างอิงได้จาก standard heat map, หรือว่าไปดูข้อมูลเกี่ยวกับ heat maps ได้ที่ forums and blogs. ครับ

ปฏิกิริยาของผู้ใช้งานเวบไซต์ของเรา

ตามที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้ครับ, คุณนั่นแหละ ที่จะรู้จักผู้ใช้งานเวบไซต์ของคุณดีที่สุด ดังนั้นทาง AdSense Team ก็สนับสนุนเราให้รู้จักใส่ใจกับความต้องการ และ ความสนใจ เล็ก ๆ น้อย ๆ ของผู้ใช้งานด้วยนะครับ

1. ถ้าเนื้อหานั้นสร้างโดยผู้ใช้งานเวบไซต์ของเรา เช่น forum และ หน้า profile, เขามักจะไม่อยากให้เนื้อหาของเขาถูกขัดขวางด้วย ad ครับ คนทำ AdSense บางคนจะให้มีการสมัคร premium membership ซึ่งจะเอาโฆษณาออกสำหรับสมาชิกพิเศษแบบนี้ครับ, แต่ว่าจะหาเงินจากคนที่ไม่ได้เป็น premium member ครับ

2. สำหรับการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของ ad เราสามารถลองเปลี่ยนไปทีละเล็กละน้อยครับ เพื่อทดสอบดูว่าผู้ใช้งานเวบเรามีการตอบสนองอย่างไร. ถ้า CTR ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ด้วยการวาง AdSense ad ที่ตำแหน่งใหม่ , นั่นอาจจะเป็น ตัวชี้วัดได้ว่า ผู้ใช้งานเห็นว่า AdSense ad นั้น เป็นประโยชน์มากกว่าจะไปสร้างความรำคาญครับ

3. ตรวจสอบเนื้อหาบนหน้าเวบของคุณ เพื่อดูว่า ผู้ใช้งานจะมีลิงค์ที่เกี่ยวข้องให้คลิกหลังจากได้อ่านบทความนั้น ๆ จบลงครับ. มีคนทำ AdSense คนนึงบอกว่า โฆษณาที่เป็นตัวหนังสือเหมาะอย่างยิ่งที่จะวางไว้ในตำแหน่งที่ผู้ใช้งานต้องการหาลิงค์ที่จะเกี่ยวข้องกับเนื้อหาหลักในหน้านั้น ๆ . อย่างไรก็ตาม เราไม่หลอกลวงผู้ใช้งานครับ แต่เราทำการทดลองอย่างค่อยเป็นค่อยไปเรื่อย ๆ และ ทาง AdSense Team เขาก็บอกด้วยว่า เขาใส่ใจจุดหมายปลายทางมากกว่าครับ นั่นก็คือ เนื้อหาที่มีคุณภาพ, บริการที่มีประโยชน์ ถ้าคุณสามารถหาจุดกึ่งกลางได้ คุณจะสามารถสร้างรายได้จากเวบไซต์ของคุณ ด้วยโฆษณา พร้อม ๆ ไปกับการสร้าง ประสบการณ์ในด้านบวกให้กับผู้ใช้งานเวบไซต์ของคุณได้ด้วยครับ

Bryan's Tips for Testing and Tracking Optimization

เรียก Tips นี้ว่า ไบรอัน ทิป แล้วกันนะครับ เป็นทิป สำหรับการทดสอบ และ ตรวจสอบ การ Opitmization ครับ
อย่างที่คุณ Mike Gutner ได้บอกไว้ว่า จะปิดท้ายสัปดาห์นี้ด้วย ทิปเด็ด 3 ทิป สำหรับ ทดสอบ และ ตรวจสอบครับ. ทุก ๆ สุดสัปดาห์จะปิดท้ายด้วย ทิป เด็ด 3 ทิป จากทีม Optimization ของ AdSense Team ครับ ดังนั้น คุณ ไบรอันเขาบอกว่า เขารู้สึกเป็นเกียรติที่จะแบ่งปันประสบการณ์ในการ optimization ซึ่งคุณ ไบรอันเขาบอกว่า เขามักจะแนะนำผู้ทำ AdSense เสมอ ๆ. และ การที่ได้รับปฏิกิริยาตอบกลับจาก ผู้ทำ AdSense ถือว่าเป็นเหมือนรางวัลสำหรับเขาทีเดียวล่ะครับ แบบว่า คำแนะนำของเขาเนี่ยได้ผลอย่างไรบ้าง ..ตาไบรอันบอกว่าเหมือนเขาเห็นหลอดไฟแบบว่า ปิ๊ง! อยู่เหนือหัวของลูกค้าเลยล่ะครับแบบว่า... " Ah-HA"

เมื่อสองสามเดือนก่อน, ทีม AdSense ได้เพิ่มจำนวนของ channels และ เพิ่มรายงานใหม่ ๆ อีกหลายอย่างเข้าไปด้วย. เอาล่ะครับ คุณไบรอันเขาว่ายังไงบ้าง เพื่อให้ใช้ประโยชน์จาก channels และ ลูกเล่นที่ได้เพิ่มเข้าไปนี้ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพหน่อยน่ะครับ

1. Search don't scroll: ไบรอันเนี่ยเขามักจะสนับสนุนให้ผู้ทำ AdSense พยายามทดสอบหลาย ๆ อย่าง และ ใช้ channel บางครั้งการต้องเลื่อน ๆ หน้าจอลงมาตามรายการของ channels (ซึ่งมากสุดได้ถึง 200 อัน) ก็น่าเบื่อ กว่าจะเจออันที่เราอยากดูจริง ๆ . ไบรอันแนะนำให้ทำการปรับเปลี่ยนชื่อของ channel ให้เคลียร์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วก็จัดกลุ่มให้ได้ เช่น ใช้ชื่อที่ยาวกว่า เช่น HomeRightWideSkyOpenAir เราก็จะหา channel นี้ได้ง่าย ๆ และ จัดกลุ่มของ channels ด้วย
หน้า(ในกรณีนี้, คือ Home หมายถึงหน้า Homepage แหละครับ นั่นก็คือหน้าแรกของเวบไซต์เรา)
แล้วตามด้วย ตำแหน่งบนหน้านั้น ๆ (ขวามือ)
แล้วก็ตามด้วย รูปร่างของ ad (Wide Skyscraper) หรือ สีของ ad (Open Air)

2. ลดเวลาด้วย custom reports : ด้วย custom reports, ผู้ทำ AdSense ก็แทบจะไม่ต้องใช้ tab Advanced Reports เลย. แทนที่จะเสียเวลาจัดการเจ้า channel(s), เลือกช่วงวันที่ และ ชนิดของข้อมูล ทุก ๆ ครั้ง ที่คุณต้องการตรวจสอบสถิติ update, คุณก็สามารถใช้ custom reports เพื่อตั้งค่าไว้ได้เลยว่าจะเอา reports ที่มีหน้าตาแบบนี้ ต่อไปทุก ๆ ครั้ง เปิดปุ๊ป จัดข้อมูลแบบนี้ปั๊ป. เนี่ยทำให้คุณสามารถดู reports ได้จากหน้า Overview page. นี่ก็จะช่วยให้คุณเห็นข้อมูลได้เร็วมากขึ้น และ ง่ายที่จะทำการทดสอบ และหา patterns ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ ad ของคุณได้

3. เลือกใช้ emailable reports: ผู้ทำ AdSense หลาย ๆ คนมีคนทำงานให้กับการติด AdSense ของเขามากกว่าหนึ่งคน แต่ว่า ปกติจะมีแค่คนเดียวเท่านั้นที่จะ login เข้าไปในบัญชี AdSenes ครับ เพื่อดู สถิติ และ ประสิทธิภาพครับ ด้วยการส่ง report ทาง e-mail เราก็จะสามารถส่งรายงานไปให้คนในทีมของเราได้ ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแบบ รายวัน หรือ รายสัปดาห์ หรือ รายเดือน เพื่ออัพเดทรายได้จาก Google AdSense ของเราครับ

The ABCs of A/B Testing


A/B testing คืออะไรกัน
ถ้าคุณเคยคิดอยากจะลองสลับ banner ad สำหรับ leaderboard หรือ อยากลองเปลี่ยนสี pallets เป็นแบบ Open Air, เนี่ยเลยครับ Google เขามาสอนวิธีนี้ เขาเรียกว่า " A/B test"

แบบว่า คุณอาจจะคิดว่า เจ้า leaderboard ของคุณเนี่ย น่าจะเพิ่มรายได้ให้คุณได้เป็น 2 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับ banner. ถ้าจะพิสูจน์ดู คุณจะต้องมีหลักฐาน, ดังนั้น ก็มาลองทำ A/B Test กันดูดีกว่าครับ

ก่อนอื่น, คุณจะต้องสร้าง custom channels ขึ้นมาสองอัน สำหรับ ad แต่ละอันที่เราจะทำการทดสอบแยกกันเลยนะครับ จากนั้น สร้าง leaderboard ad unit แล้วก็ banner ad unit ด้วย ทุกอย่างที่เหมือนกัน, ยกเว้น รูปร่างของ ad ที่เราได้เลือกให้มันต่างกันอยู่แล้ว (leaderboard กับ banner ) แล้วก็เลือก channel ให้ถูกอันด้วยนะครับ

คุณสามารถเลือกวิธีการทดสอบ A/B test นี้ได้ครับ เช่น ทดลองแค่ 5% ของ traffic หรือ เฉพาะบนหน้าแรกของเวบไซต์เท่านั้น. ไม่ว่าจะเลือกอย่างไร, คุณจะต้อง run ad units พร้อมกันทั้งสองตัวนะครับ. แต่ว่าจะทำอย่างไรให้มันเลือกโชว์ สลับกันระหว่าง ad สองอันนี้ได้ง่าย ๆ ล่ะครับ
ง่ายที่สุดคือ ใช้ JavaScript template ด้านล่างนี้เลยครับ-มันจะ rotate ระหว่าง ad ทั้งสองแบบนี้ให้แบบละ 50% สลับกัน

เวลาจะใช้ให้แทนที่
“//your first ad unit goes here” ด้วย code ของ ad อันหนึ่งที่คุณทำ
และ แทนที่
“//your second ad unit goes here”
ด้วย code ของ ad อีกอันหนึ่งที่เหลือ

จำไว้ด้วยนะครับว่าปกติแล้วการปรับแต่ง Code ที่ได้จาก Google AdSense ถือว่า ผิดกฏ ครับ แต่ว่า คราวนี้ ทาง ผู้ทำเนี่ย ได้ เช็คแล้ว และ ได้รับ อนุญาตให้ทำการ modify code สำหรับกรณีที่ต้องการทดสอบ A/B testing นี้ได้ครับ. แต่ว่าทำแล้ว ก็ถ้ามีปัญหาอะไรเนี่ย ทาง AdSense team ไม่มีคนคอยมา support เรานะครับ แก้เอาเอง

เมื่อคุณได้ทดลองวาง A/B testing Code บนหน้าเวบของคุณแล้ว, คุณจะเห็นผลลัพธ์ได้จาก channel reports และสามารถเปรียบเทียบได้จาก custom channels ที่คุณได้สร้างไว้แล้ว

ถ้าคุณรู้แล้วว่า โฆษณาอันไหนได้ผลดีกว่า อีกอันหนึ่ง ก็เอา testing script นี้ออก แล้วแทนที่ด้วย Code ของ ad นั้น ๆ เพื่อใช้มันอันเดียว ต่อไป. หรือไม่ก็ สร้าง ad อีกอันนึงขึ้นมาเพื่อทำการทดสอบเทียบกับอันที่เราเพิ่งเลือกได้นี้ต่อไป

มีอีก 2-3 เรื่องที่คนที่จะทำ A/B test จะต้องจำไว้เมื่อทำการ desing และ run A/B test ครับ:

1. โฆษณาตัวหนึ่งที่จะเอามาทดลองนี้ ควรจะเป็นโฆษณาที่คุณได้ใช้อยู่ในปัจจุบัน.
เพื่อที่จะได้ทำการเปรียบเทียบได้ว่าอันไหนดีกว่า, โฆษณาอันเดิมนี้จะถูกเรียกว่า ตัวแปรที่ถูกควบคุม,

2. คุณควรจะทำการเปลี่ยนแปลง ad ทีละอย่างในแต่ละครั้งของการทดลอง A/B นี้
จุดประสงค์ของการทำ A/B testing นี้คือการแยกแยะให้ได้ว่า รายได้ที่จะดีขึ้น หรือ CTR ที่จะเปลีี่ยนไป ต่อหนึ่งจุดของการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น เพื่อที่คุณจะได้รู้ว่า การเปลี่ยนแปลงอะไรที่มันจะส่งผลต่อรายได้ของคุณ ด้วยการปรับปรุงแก้ไข Code ของโฆษณาตัวอย่างทีละจุดนะครับ

3. ต่อการทดสอบหนึ่งครั้ง ad ทั้งสองจะต้อง run เหมือน ๆ กัน.เพื่อที่จะรู้ได้ว่าเมื่ออยู่ในสภาพเดียวกันทุกอย่างบนหน้าเวบของเรา ad อันไหนสร้างรายได้ ให้เราได้ดีกว่ากัน

JavaScript template ด้านบนนี้เป็นทางหนึ่งในการทำ A/B testing ถ้าสนใจเกี่ยวกับ A/B testing มากกว่านี้ ไปที่นี่เลยครับ Help Center .

เลือก channel
ก่อนเริ่มทำการปรับปรุงหน้าเวบของคุณนะครับ อยากให้เลือกใช้ channels ด้วยครับ เพื่อให้เราสามารถทำการตรวจสอบได้ว่า การที่เราได้ปรับปรุงไปเนี่ยมันมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน.แต่ว่า รู้หรือเปล่าว่า URL channels กับ custom channels-- เอ้า...แล้วยังงี้เราต้องเลือกอันไหนเนี่ย? มาดูกันก่อนแล้วกันครับว่าประโยชน์ของแต่ละอันเป็นอย่างไร, แล้วแต่ละแบบ เหมาะกับสถานการณ์แบบไหนครับ

URL Channels
URL Channels เอาไว้เช็คส่วนที่แยกออกจากกัน ของเวบเดียวกัน หรือไม่ก็ คนละโดเมนเนม ไปเลยครับ ถ้าคุณขี้เกียจเปลี่ยน Code AdSense ของคุณ. ใช้ง่ายครับ เช่นถ้าคุณมี Blog เกี่ยวกับ cars และ อีกอันเกี่ยวกับ Boats, คุณก็ทำ URL channel สำหรับแต่ละอันไว้เลย. จากนั้น เมื่อคุณทำการปรับปรุงแล้ว, คุณก็ไปดูผลได้ที่ channel reports ว่าผลการปรับปรุงของคุณเป็นอย่างไร สำหรับแต่ละ Blog (อันนี้คาดว่า น่าจะปรับปรุง สีสันของ Code ครับ แล้วปรับทีเดียวใช้มันสอง Blog ไปเลย

Custom Channels
Custom channels เอาไว้สำหรับหน้าเดียวแต่มีหลาย ad units, โดยคุณต้องสร้าง channels ใหม่ สำหรับ Code แต่ละอันเลยครับ (อันนี้ใครสร้าง ad ไว้แล้วไม่ได้ทำ channels ก็สร้างใหม่ครับ แล้วใส่ channel ด้วยก่อนที่จะ generate code แล้ว copy ไปน่ะครับ) สร้าง ad 1 อัน ก็ใส่ Custom Channels 1 อันเลยนะครับ แล้วก็ใส่ชื่อให้ชัดไปเลยครับ เช่น ‘Left_Ad’ แล้วก็ ‘Right_Ad’ หลังจากสร้าง ad ใหม่แล้ว (พร้อม custom channel) เราก็ copy code ไปแปะลงใน HTML เลยครับ. แล้วก็ไปดู reports แต่ละ ad แบบรายตัวแยกกันได้เลยครับ แล้วก็จะได้รู้กันซะทีว่า Ad อันไหน คนคลิกเยอะกว่า, หรือเมื่อเอาขอบออกไป แล้วมีผลกับรายได้ของคุณหรือไม่.

อะไรคือ section targeting และ จะติดตั้งมันได้อย่างไร
ด้วย Section targeting คุณจะสามารถแนะนำเนื้อหาที่เป็น text และ HTML ที่คุณต้องการให้ Google พิจารณาเป็นพิเศษ หรือ ว่าลดการให้ความสำคัญ เพื่อการพิจารณาในการส่งโฆษณามายังเวบไซต์ของคุณ. Google เขาแนะนำมาครับว่าเจ้าตัว Section targeting เนี่ย..จะเหมาะกว่า สำหรับคนที่พอจะคุ้นเคยกับ HTML น่ะครับ

HTML สำหรับทำให้ Google สนใจเนื้อหานั้นเป็นพิเศษ มีดังนี้ครับ



แต่ถ้าเราไม่ต้องการให้ Google สนใจเนื้อหาตรงส่วนไหน ก็ให้แทนที่เจ้าตัว start ด้วย tag นี้ครับ



เมื่อเราเอา Code HTML ลงไปในเวบเราแล้วหน้าตาอาจจะเป็นประมาณนี้ครับ

This is the text of your web page. Most of your content resides here.



เราสามารถจะใช้ section targeting กี่หน้าเวบก็ได้ ในหนึ่งเวบไซต์ของเราครับ แต่อย่างไรก็ตาม ทาง Google เขาก็ไม่ได้ การันตี ผลลัพธ์นะครับว่ามันจะได้ผลเป็นอย่างไร, และก็อาจจะต้องใช้เวลาถึงประมาณ 2 สัปดาห์ ก่อนที่ crawlers จะได้รับรู้ว่าคุณมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างบนหน้าเวบของคุณ

แล้วก็เวลาที่เราจะใช้ option นี้น่ะครับ ก็ดูด้วยว่า content ที่เราต้องการเน้นนั้น มันมีเนื้อหา ที่พอที่จะเรียกโฆษณาที่น่าสนใจให้มาแสดงได้หรือไม่นะครับ ถ้าเนื้อหาที่เราเน้นแล้วนั้น มีเนื้อหาที่คลุมเครือแล้วทำให้ Google ไม่สามารถแยกแยะได้ว่า เนื้อหานี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร ก็ช่วยไม่ได้อยู่ดีครับ โฆษณาที่จะมาแสดง ก็อาจจะไม่ค่อยตรงกับเนื้อหา หรือ อาจจะกลายเป็นพวกโฆษณาการกุศลที่เราไม่ได้เงินไปเลยอ่ะครับ นอกจากนี้ ถ้าหากว่าเนื้อหาเวบไซต์เราเป็นอย่างหนึ่ง แต่พยายามทำให้โฆษณาที่จะแสดงกลายเป็นอย่างอื่นที่ไ่ม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาบนเวบไซต์ของเรา.. อย่างนี้ผิดกฏ นะครับ..โดนแบนได้ทันที

AdSense on Google Page Creator
วันนี้มีข่าวดีมาฝากครับ Google's ได้ปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่มาให้เราได้ใช้กันครับ นั่นก็คือ Google Page Creator. เราสามารถทำหน้าเวบไซต์ของเราได้อย่างง่ายมาก ๆ แถมยังสามารถสร้างรายได้จาก Google AdSense ได้อีกด้วย

เอาล่ะครับ เรามาดูวิธีการหารายได้จาก Google AdSense ด้วย Google Page Creator กันเลยดีกว่าครับ ขั้นตอนที่ Google บอกไว้มีดังนี้ครับ

1. Log in เข้าไปใน AdSense account ของคุณก่อนนะครับ
2. สร้างโฆษณา AdSense ของคุณได้เลยครับ
3. Copy Code ที่คุณสร้างขึ้นมาเองนั้นซะ
4. แล้วทีนี้ก็ Log in เข้าไปที่ Google Page Creator account ของคุณครับ
5. เลือกหน้าเวบที่คุณต้องการจะเอาโฆษณา AdSense ไปวางขึ้นมาครับ
6. เลือกว่าจะวางไว้ตรงไหนครับ
7. คลิกเลือก "Edit HTML"







8. Paste the AdSense code in the HTML source code of the page.
8. เอา Code ที่เรา Copy มาเมื่อกี้ paste ลงไปครับ


9. Click 'Save Changes'.
10. Publish your web page

9. แล้วก็ คลิก 'Save Changes'. ด้วยนะครับ
10. แล้วก็คลิกที่ Publish your web page ครับ
เป็นการประกาศก้องว่า...ฉันมีหน้าเวบของตัวเองแล้ว
พร้อมติด AdSense ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้เราไว้แล้วด้วย...!!


Your ads should appear shortly!
แล้วโฆษณาที่จะำนำเงินมาให้เรา...ก็จะเริ่มปรากฏในไม่ช้าครับ

Stay on target
อย่างที่ทราบกันดีครับ ว่า Google AdSense จะแสดงโฆษณาตามเนื้อหาบนเวบไซต์ของคุณ แต่ว่าบางครั้งคุณอาจจะต้องการเน้น หรือ ไม่เน้นเนื้อหาบางส่วนบนหน้าเวบไซต์ของคุณ
เช่น คุณอาจจะต้องการเน้นเนื้อหาในส่วนแรกของบทความของคุณ หรือ ต้องการละความสนใจ menu bar ของคุณ. ด้วย Section targeting, คุณสามารถช่วยเราให้ทราบได้ว่าคุณต้องการเน้นบทความส่วนไหนที่สำคัญ ซึ่งนั่นจะทำให้โฆษณาที่จะแสดงบนเวบไซต์ของคุณ เกี่ยวข้องกับเนื้อหาบนเวบไซต์ของคุณ

ตรวจสอบก่อนว่าคุณควรติด Section targeting หรือไม่
1. คุณ คุ้นเคยกับ HTML และ สามารถติด HTML tags ลงบน source code ของคุณ
2. คุณต้องการช่วย crawlers ในการตรวจสอบเนื้อหาบนเวบไซต์ของคุณ
3.เนื้อหาที่คุณต้องการเน้นนั้น มีเนื้อหาที่เป็นตัวอักษรมากพอที่จะช่วยบอก crawlers ของ Google ได้


หลาย ๆ คน อาจจะถามว่า เมื่อติด Section targeting HTML code แล้ว จะรู้ได้ไงว่า มันใช้งานได้แล้ว
ต้องขอแจ้งไว้ก่อนว่า ต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนที่คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลง จากโฆษณาบนเวบไซต์ของคุณ, อย่างไรก็ตามเราต้องการให้คุณแน่ใจว่า โฆษณาที่จะแสดงบนเวบไซต์ของคุณมีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้, ดังนั้น เทคโนโลยีของเรา จะตรวจสอบว่า section targeting จะช่วยปรับปรุงผลลัพธ์หรือไม่ และ ติดตั้งอัตโนมัติ เฉพาะเมื่อคุณจะได้รายได้มากขึ้น
ไปอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ support entry สำหรับการเริ่มติดตั้ง section targeting

ถามว่า ถ้าพวกเราเป็น agency และ เมื่อเร็ว ๆ นี้เราได้เอาโฆษณาของ Google มาวางบนเวบไซต์ของเรา มีทางไหนมั้ยที่จะทำให้โฆษณาที่จะขึ้นบนเวบไซต์ของเราเป็นโฆษณาที่เกี่ยวกับหัวข้อของเรา เช่น สายการบิน, โรงแรม ฯลฯ

ตอบว่า เป็นคำถามที่ดีครับ(ทำเหมือนประกวดนางงามเลย..ทวนคำถามด้วย อิอิ) อย่างที่คุณทราบแหละครับ ว่า technology ของ Google จะตัดสินเองโดยอัตโนมัติครับว่า จะแสดงโฆษณาอันไหน บนเวบของคุณ ซึ่งขึ้นอยู่กับ เนื้อหาโดยรวมของหน้านั้น ๆ เราไม่สามารถบังคับให้โฆษณาที่จะขึ้น เป็นไปตาม keywords หรือ หมวดหมู่ ไหน ๆ โดยเฉพาะนะครับ. อย่างไรก็ตามถ้าหากคุณอยากให้โฆษณาที่จะแสดง มีความเกี่ยวข้องกับหัวข้อของคุณ เช่น airline หรือ hotels คุณสามารถเพิ่มเนื้อหาที่เป็นตัวอักษร (text-base content) เกี่ยวกับหัวข้อนี้ลงไปในเวบไซต์คุณได้. และต้องแน่ใจด้วยนะครับว่าเนื้อหาที่เพิ่มเข้าไปเป็นประโยค และ ย่อหน้า ที่สมบูรณ์ เพื่อช่วยให้เจ้าตัีว crawlers จาก Google ตรวจสอบได้ง่ายว่าเนื้อหาบนเวบคุณเกี่ยวกับอะไร. ดังนั้นถ้าคุณปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเวบไซต์ของคุณ, บางทีอาจจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ กว่าที่การเปลี่ยนแปลงนั้นจะมีผลต่อโฆษณา ที่จะแสดงบนเวบไซต์ของคุณ

ถามว่า ถ้าผมมี blog ที่ post หลายๆ หัวข้อที่ต่างกัน , แล้วผมจะแน่ใจได้ยังไงครับว่าโฆษณาบน blog ของผมจะเกี่ยวข้องกับเนื้อหาล่าสุดที่ได้ post ลงไป

ตอบว่า คุณได้ลองใช้ section targeting แล้วหรือยัง Section targeting อนุญาตให้คุณแนะนำ ส่วนที่เป็นเนื้อหา ที่เป็นตัวอักษรและ HTML ของคุณ. ซึ่งคุณต้องการให้เราสนใจเป็นพิเศษเมื่อเราต้องการจับคู่โฆษณา กับ เนื้อหาบนไซต์ของคุณ. เราต้องการแน่ใจว่า คุณจะได้รับรายได้สูงสุด ดังนั้น Technology ของ Google จะตรวจสอบเองโดยอัตโนมัติว่า ส่วนที่แนะนำมานั้น จะทำให้คุณได้รับ รายได้เพิ่มขึ้น

ถามว่า ฉันเจอโฆษณาเกี่ยวกับ dating อันนึงเมื่อเร็ว ๆ นี้, ซึ่งมันไม่เกี่ยวกับเวบไซต์ของฉันเลย ฉันจะป้องกันโฆษณาที่เกี่ยวกับคำว่า dating ได้ยังไง


ตอบว่า ตอนนี้ Google เองยังไม่มี option ที่จะกรองโฆษณาด้วย keywords หรือ หัวข้อนะ, แต่ว่าอย่างไรก็ตาม คุณสามารถป้องกันโฆษณาที่คุณไม่ต้องการได้ด้วยการใช้ Competitive Ad Filter ใน account ของคุณ. คุณสามารถกรองโฆษณาออกได้สุงสุดถึง 200 URLs ครับ

ถามว่า เรามีเวบค้าขาย ซึ่งขายของเกี่ยวกับ เครื่องครัว ทันทีที่เราใส่ adsense ลงบนเวบของเรา มันก็เริ่มมีโฆษณาของคู่แข่งของเรามาแสดง. เราก็ได้ใช้ Competitive Ad Filter list แล้ว แต่ว่า พอจะมี tips อื่นมั้ย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเวบไซต์ของเรา

ตอบว่า ตอนแรก เราอยากให้ลองใส่โฆษณาไปแค่ 2-3 หน้าก่อน แล้วลองดูว่ามันเป็นยังไง. มีผู้ที่มีเวบขายสินค้าได้รับรายได้เพิ่มขึ้นจากการติดโฆษณา AdSense โดยไม่กระทบการขายสินค้าของเขาด้วยนะ
(ก็คงหมายถึงว่า ลองติดดูไปก่อน ถ้ารายได้ดีก็เก็บไว้ ถ้าทำให้ยอดขายสินค้าหลักตก ก็คงบอกว่าให้เอาออกล่ะมั้งครับเนี่ย)


ถ้าที่เขียนมาข้างบนนี้ คุณไม่เห็นว่ามีกรณีไหนที่เกี่ยวข้องกับปัญหาที่คุณเจอ,
มัน ยังมีทางที่คุณจะใช้กลยุทธ์ AdSense อื่นอีก เช่น
คุณอาจจะอยากใส่ Google ads บน checkout pages หรือ หน้ายืนยันการซื้อ เพื่อที่จะให้ลูกค้าของคุณมีกิจกรรมอย่างอื่นทำต่อ หลังจากซื้อของจากเวบไซต์ของคุณแล้ว

หรือถ้าคุณเป็นคนทำ AdWords คุณสามารถวางโฆษณาบนหน้าที่คุณวาง conversion tracking code ไว้ก็ได้. อย่างไรก็ตาม ถ้าวางอย่างนี้ ก็ต้องระวังเรื่องของข้อห้ามของ AdSense ด้วยนะครับ เกี่ยวกับเรื่องของหน้าที่ไม่มีเนื้อหาอะไร. คุณควรวางโฆษณา AdSense บนหน้า checkout pages หรือ หน้ายืนยันการขายเท่านั้น ถ้าหน้านั้นมันมีเนื้อหาที่เป้นตัวอักษรอยู่น่ะครับ, เพื่อให้แน่ใจว่า โฆษณาจะส่งไปแสดงได้อย่างตรงกับเนื้อหาบนหน้าน่ะครับ

คุณยังสามารถใช้ web analytics tool เพื่อดูว่า หน้าไหนที่ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์ของคุณ ออกไป ถ้าคนเข้ามาแล้วออกไปโดยไม่มีการซื้อของของคุณ เพียงแค่เข้ามาไม่กี่หน้า แล้วเขารู้สึกว่าไม่เจอของที่กำลังค้นหาอยู่, AdSense อาจจะสร้าง โอกาสให้ผู้ใช้งานเวบไซต์ของคุณ "มีที่ไปต่อ" เพื่อช่วยให้คุณมีรายได้จากการเข้าเยี่ยมชมในครั้งนี้โดยไม่กระทบกับธุรกิจของคุณ

เพิ่มความสำเร็จของคุณด้วย ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของ Google
Google เขามีผลิตภัณฑ์ และ บริการ ให้เราได้เลือกใช้กันมากมายก่ายกองครับ เพื่อช่วยให้เวบไซต์ของคุณติดอยู่ใน Google Search น่ะครับ,
โฆษณาธุรกิจของคุณ, และ เพิ่มการใช้ประโยชน์จากเนื้อหาบนเวบของคุณ. ด้วย AdSense

เริ่มกันด้วย Sitemaps เพื่อให้เวบของคุณติดอยู่ในผลการค้นหาจาก Google search
ทำให้เวบของคุณเป็นที่จดจำได้ และ ได้รับผู้ชม ที่มีคุณภาพสูง เป็นกุญแจสำคัญที่เพิ่มความสำเร็จให้ของการทำ AdSense ให้กับคุณ, ถ้าคุณอยากได้ traffic เข้าเวบไซต์ของคุณ Google เขาแนะนำให้ไปดู webmaster guidelines เพื่อเป็น idea ว่าจะต้องทำอย่างไรกับ content และ โครงสร้างของเวบไซต์ของคุณ.โดยเฉพาะการ submit URLs ของคุณ ที่ Google Sitemaps จะช่วยให้คนอื่น ๆ พบหน้าเวบ่ของคุณ และ จะปรับปรุง ภาพลักษณ์ (หรือเปล่าเนี่ย coverage จะแปลว่าไรคับ) ของเวบไซต์คุณ

เข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ ด้วย AdWords Program ครับ
ด้วย Google AdWords คุณจะสามารถสร้างโฆษณาของคุณเองได้, เลือก keywords เพื่อที่จะช่วยให้ google นำโฆษณาไปนำเสนอยังลูกค้าของคุณ, และ จะมีค่าใช้จ่ายก็ต้องเมื่อมีคนคลิกโฆษณาของคุณเท่านั้น, นั่นคือ คุณจะมีค่าใช้จ่ายก็ต่อเมื่อโฆษณาของคุณ Work ครับ, สมัครง่ายมาก ครับ สมัครปุ๊ปทำโฆษณาปั๊ป ภายในไม่กี่นาที โฆษณาของคุณก็ขึ้นหน้าหนึ่งของ google ได้แล้วครับ เปิดเผยเวบคุณต่อสายตาชาวโลกได้ง่ายขึ้น

ใช้ Google Maps API ด้วยสิครับ
Maps API ช่วยให้คุณฝังเรื่องของข้อมูลทาง ภูมิศาสตร์ ลงไปในเวบของคุณ ด้วย การใช้ JavaScript
คุณสามารถ add overlays ไปบน map รวมถึง markers,polylines, หรือ shadow information windows (น่าจะหมายถึงหน้าต่าง บอกข้อมูล ประมาณนั้นน่ะครับ). นี่เป็นทางเลือกที่ดีที่จะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเวบไซต์ปัจจุบันของคุณ , แต่ที่เหนือสิ่งอื่นใด, Google Maps API ใช้ได้ Free ครับ. อยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า เวบไซต์ของคุณผ่านเกณฑ์และ กฏข้อบังคับการใช้งาน หรือไม่ ต้องไปดูที่ Maps API FAQ

เพิ่มกิจกรรมระหว่างคุณกับผู้เยี่ยมชมเวบไซต์ของคุณ ด้วย Blogger
ด้วยการให้โอกาสที่จะแสดงออกซึ่งมุมมองของเวบไซต์ของคุณ, Blogger สามารถช่วยให้คุณและ ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์ของคุณสร้างสังคมขึ้นมาบนเวบไซต์ของคุณ. ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของเวบไซต์ที่เวอร์ หรู อลังการ ล้านแปด หรือ ว่าแค่ นักเขียนต๊อกกะต๋อย Blogger สามารถเป็นแม่เหล็กให้แก่ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์ของคุณได้

ได้เวลาปรับปรุงคุณภาพ AdSense กันแล้ว
ถ้าคุณเข้าไปอ่าน ใน AdSense Help Center บ่อย ๆ แล้ว คุณอาจจะทราบแล้วว่า เดี๋ยวนี้ Version ใหม่ของหน้า Optimization Tips page ใหญ่ขึ้น และ ดีขึ้นกว่าเดิมแล้ว.ถ้าคุณเป็นมือใหม่ของการ optimization, หรือเพิ่งจะมองหา idea ใหม่ ๆ ในการเพิ่มรายได้จาก AdSense ของคุณ คุณก็จะได้พบกับหน้าใหม่ของการ optimized ที่จะช่วยคุณได้อย่างมาก
Google ได้เพิ่มเนื้อหาในการเลือก successful color palettes และ การปรับปรุงเวบของคุณอย่างมีประสิทธิภาพด้วย Google Services เช่น Blogger,AdWords,และ Sitemaps ครับ.
แล้วคุณก็ยังสามารถหาข้อมูลใหม่ๆ และ รายละเอียดแนะนำสำหรับการปรับปรุงประสิทธิภาพของ AdSense บน site แต่ละชนิด เช่น blog และ forums. หน้าใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามานี้ มีภาพประมาณ screenshots และheatmaps ด้วยนะครับ เพื่อที่จะให้เราเข้าใจได้ง่ายขึ้น, และ เราคิดว่าการจัดวางหน้าแบบใหม่นี้จะทำให้การเข้าใจ และ ใช้งานเป็นไปได้ง่ายขึ้นครับ

ทำไม AdSense ไม่แสดง
จะว่าไปแล้วมันก็มีหลายสาเหตุครับ ทาง Google AdSense Team เขาเลย List มาให้ดูกันตามนี้ครับ

ระบบของ Google ยังไม่ได้ไปตรวจหน้านั้น ๆ ของเวบไซต์คุณ
-Crawler ต้องการเวลาหน่อยนะครับ. ถ้า Google ยังไม่เคยไปตรวจเวบคุณเลย, มันอาจจะต้องรอซักประมาณ 48 ชั่วโมง หรือ มากกว่านั้น กว่าที่ Crawler จะไปตรวจหน้าเวบของคุณ. ระหว่างนั้น โฆษณาบนเวบของคุณ จึงอาจจะเป็นโฆษณา public service ads (บริการสังคม) หรือ โฆษณาที่ค่อนข้างจะใกล้เคียงกับเวบของคุณ (คือไม่ใช่ซะทีเดียว). แล้วความใกล้เคียงก็จะค่อยๆ เพิ่มไปตามเวลาแหละครับ
-Crawler ไม่สามารถตรวจอ่านเวบของคุณได้.ถ้า Crawler ไม่สามารถเข้าเวบของคุณได้, เราจะส่งรายละเอียดให้คุณรู้ด้วยการแจ้งไปยังหน้า Site Diagnostics ใน account ของคุณ อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ Site Diagnostics entry ได้ที่นี่ครับ Site Diagnostics entry.

เวบของคุณอาจจะมีเนื้อหาที่ไม่ focused ไปเรื่องใดเรื่องหนึ่งซะทีเดียวน่ะครับ
ถ้าเวบของคุณมีเนื้อหาที่ไม่มี โฟกัสที่แน่นอน เยอะ ๆ แล้วเนี่ย หรือ อาจจะมี navigation bars ที่ซับซ้อน, Blog ที่โพสมาแล้วไม่ค่อยเกี่ยวกับอันอื่น ๆ หรือ มีเนื้อหาที่เป็น Text มาก ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน้าเวบ ประมาณเนี้ยครับ
ระบบของ Google จะเลือกโฆษณาที่น่าจะใกล้เคียงให้มากที่สุดล่ะครับ. กรณีเนี้ย อยากให้ไปดูที่ section targeting feature ครับ เพื่อช่วยเหลือ crawlers ตัดสินใจว่าเนื้อหาไหนควรจะ emphasize or downplay. (น่าจะแปลว่า เลือก หรือ ละเลย ประมาณนั้นนะครับ แหะแหะ)

หน้าเวบนั้น ๆ ของคุณ ต้องมีการ login
ตอนนี้(หมายความว่าในอนาคตอาจจะเข้าไปดูได้ ซึ่งก็ไม่รู้เมื่อไหร่นะครับ) หน้าเวบที่ต้องมีการ login เข้าไปนั้น ทาง Crawler ของ Google เองยังเข้าไปอ่านได้ยากครับ.แล้วก็ยังยากต่อการได้รับการอนุมัติด้วยครับ ดังนั้น ก็ประมาณว่า ช่วยไม่ได้แหละครับ

หน้าเวบของคุณอาจจะมีเนื้อหาน้อยเกินไป
คือเนื้อหาน้อยเกินไปจนเจ้า Crawler มันเข้ามาตรวจแล้ว ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไรกันแน่น่ะครับ ก็เลยไม่รู้จะเอาโฆษณาไหนไปแสดงให้น่ะครับ
แล้วเขายังบอกอีกด้วยว่า จด ๆ ไว้ซะด้วยนะว่า Crawler ของ Google เนี่ยไม่สามารถอ่านความหมายจากสิ่งต่าง ๆ ต่อไปนี้ได้ครับ
* audio and video files (.wma, .mpeg, .mov)
* mp3 files (.mp3)
* images (.jpeg, .bmp)
* Macromedia Flash movies
* Java Applets
กรณีนี้ ก็ขอให้คุณเพิ่มเนื้อหาที่เป็น Text เข้าไปในเนื้อหาครับ แนะนำเลยนะครับว่าถ้าเป็น ประโยคที่สมบูรณ์ได้เนี่ย ก็จะดี เพื่อช่วยเหลือ Crawler ให้เข้าใจความหมายของเวบของคุณ เพื่อจะได้แสดงโฆษณาที่สัมพันธ์กับหน้าเวบของคุณได้น่ะครับ

เวบของคุณอาจจะมีเนื้อหาล่อแหลมเกินไป หรือ เป็นเวบที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องเรื่องของผู้ใหญ่ ๆ หน่อย (อิอิ)
ระบบของ Google จะมีตัวกรองที่ป้องกันผู้ทำโฆษณาด้วยเวบที่มีเนือ้หาที่อาจจะเกี่ยวข้องกับ เนื้อหาที่ไม่ดีงาม, ไม่เป็นมิตรต่อครอบครัว หรือ ออกแนวก้าวร้าว ก็ห้าม. ดังนั้น เนื้อหาบนเวบไซต์ของคุณอาจจะไม่ผ่านกฏเกณฑ์ใด กฏเกณฑ์หนึ่งล่ะครับ, ดังนั้น โฆษณาก็เลยไม่ค่อยจะมีให้ครับยังไงก็ไปดู program policies กันเพิ่มนะครับว่าเขาห้ามไปติดเวบอะไรบ้างครับ

เอา โค๊ดไปวางใน IFRAME (ว้าว..ยิ่งสงสัยกันอยู่ว่าวาง iframe ผิดกฏมั้ย)
ด้วย Technology ของ Google ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจอ่าน IFRAME ได้ครับ. ถ้าคุณเอา โค๊ด AdSense ไปวางไว้ใน IFRAME โฆษณาก็เลยอาจจะไม่ค่อยขึ้น (หรือขึ้นเป็นพวกโฆษณาบริการสังคมน่ะครับ). เพื่อให้ผลที่ดีกว่า please implement (อิอิ ..ถึงขั้นขอร้องเลยเหยอ พี่กูเกิล) บอกว่าให้ไปวางโฆษณาไว้หน้า source code ของเวบคุณโดยตรงเลย.เมื่อคุณเปลี่ยนมาทำแบบนี้แล้วเนี่ย โฆษณาที่เกี่ยวข้องไม่ใช่ว่าจะขึ้นโชว์ทันทีนะครับ. จนกว่า เจ้า Crawler จะเข้าไปอ่านเวบของคุณใหม่อีกรอบนั่นแหละ ซึ่งก็อาจจะกินเวลาประมาณ 48 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น, ซึ่งระหว่างนั้นเวบของคุณก็อาจจะโชว์พวกโฆษณาบริการสังคม หรือเป็นโฆษณาที่ไม่เกี่ยวข้องกับเวบไปก่อนนะครับ
สรุปว่า ติด AdSense Code ใน IFRAME ไม่ผิดครับ..ติดได้ แค่โฆษณาไม่ค่อยขึ้นเองแหละครับ ...(แล้วจะติดทำไมให้เมื่อยตุ้มล่ะครับเนี่ย)

Run, don't crawl, to the new Site Diagnostics page
เคยสงสัยมั้ยครับว่า...เอ..เจ้า Crawler ของ Google เนี่ย มันเข้ามาอ่านหน้าต่าง ๆ ของ Blog ของเราได้หมดทุกหน้ามั้ย. ครับก็อย่างที่ทราบกันดีว่า Google จะรู้ได้ว่า Blog ของเรามีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร เพื่อที่จะส่งโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหานั้น ๆ มาให้ Google จะต้องส่งตัว Crawler เข้ามาอ่านเนื้อหาต่าง ๆ ใน Blog ของเราก่อน
ทีนี้ ถ้าเกิดมีหน้า Blog อันไหนที่เจ้าตัว Crawler อ่านไม่ออก เราก็จะไม่รู้เลย (คืออาจจะมีนู่นนี่ เสียหาย แบบว่าเราไม่รู้ตัว...แต่จะว่าไปหน้าที่เจ้าตัว Crawler มาอ่านมันก็คนละเรื่องกับหน้าตาที่เราเห็น เราก็ไม่น่าจะรู้ได้แบบ Crawler หรอกครับว่ามันเสียตรงไหน) ดังนั้นถ้าเจ้า Crawler อ่านไม่ออก หน้า Blog ของเราก็จะไม่ถูก Index ไว้ ว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร ดังนั้น Google เขาก็ได้ออกเครื่องมือมาใหม่ (ขยันออกนู่นนี่จริง ๆ ตามไม่ทันแล้ววุ้ย) เรียกว่า Site Diagnostics ครับ
Site Diagnostics นี้ มีอยู่ใน AdSense Account เลยครับ ดูตามรูปนะครับ




ถ้าเจ้าตัว Crawler อ่านหน้าไหนของเราไม่ออกมันจะมี List URL ไว้ในส่วนของ Block URLs ครับ (อิอิ... ตอนนี้ของผมไม่มี)

ถ้ามันขึ้นว่า URL not found : ก็คือ Crawler มันไม่เจอ URL นั้น ๆ ซึ่งอาจจะเกิดจาก Server ที่คุณใช้อยู่ down (ก็ Server มีปัญหาแหละครับ) ตอนที่ Crawler มันมาพอดี (อืม...สงสัยต้องไปทำบุญ หรือไม่ก็หา Server เจ๋ง ๆ ที่ไม่ค่อยจะ down... อะไรจะเหมาะเจาะขนาดนั้น)
แต่ถ้ามันขึ้นว่า Robots.txt file ก็แสดงว่าเจ้า RobRobots.txt file ของคุณ มันไป Block ไม่ให้ Crawler มาอ่านหน้า Blog ของคุณ
วิธีแก้ไขของสองปัญหานี้ ก็ต้องเข้าไปที่ the AdSense Help Center ครับ เพื่อไปรู้จักเจ้าตัว Crawler มากขึ้นที่ information about our crawler.

อะไรคือ collapsing ad units และ จะใส่ลงในเวบของเราได้อย่างไร

Collapsing ad units เป็น option ของ alternate ads ครับ โดยเจ้า collapsing ad unit code จะ "collapse"(มันแปลตรงตัวว่าพังทลาย,ล้มเหลว,ยุบลง ) ดังนั้น น่าจะหมายถึง โฆษณาที่เราเลือกใช้ เมื่อมันไม่มีโฆษณาที่ตรงกันกับเวบของเรา มันก็จะไม่กลายเป็นช่องว่าง ๆ . เจ้า collapsing ad นี้ก็จะช่วยให้ลดความไม่สวยงาม (ช่องว่าง ๆ ) ได้ครับ ถึงแม้ว่าเราจะเลือกให้เป็นสีพื้นแล้วก็เถอะ. Google แนะนำว่า สำหรับ advance usres เท่านั้นครับ ที่น่าจะลองทำ collapsing ad units ครับ

จะเอา collapsing ad units ใส่ลงไปบนหน้าเวบของเราได้อย่างไร, เราจะต้องเอา code HTML ไปฝากไว้ที่ your domain (อันนี้น่าจะฝากที่โฮสไม่ใช่เหรอ) แล้วเราก็จะได้ URL ของ alternate ad มา ซึ่งมันจะถูกเรียกมาใช้ ถ้าไม่มี โฆษณาที่ตรงกันกับหน้าเวบของคุณ. วิธีการมีดังต่อไปนี้ครับ

1. ไป download เจ้าตัว collapsing ad units file มา โดยการคลิกขวาที่ลิงค์นี้ แล้วเลือก Save Target

2. Copy ไฟล์นี้ไปไว้ตรงไหนก็ได้บน domain ของคุณ.ยังไงก็ดูให้ดีด้วย ถ้าหากว่าคุณทำโฆษณาหลาย ๆ domain หรือ subdomain, คุณจะต้องฝากไฟล์นี้บนแต่ละ domains และ subdomains ถึงจะใช้ได้ครับ

3. Copy แล้วก็ paste ad code ลงไปบนหน้าเวบของคุณ.แต่คุณจะต้องแน่ใจนะว่า code ที่เอามาแปะนั้น ต้องเอามาจาก domain หรือว่า subdomain เดียวกันกับ web page นั้น ๆ .
เช่น สมมติว่า alternate ad URL ของคุณ อ้างถึง collapsing ad units HTML file บนเวบ www.example2.com คุณก็จะไม่สามารถวาง ad code นี้บนหน้าเวบของ www.example.com หรือ หน้าไหน ๆ ของ forums.example2.com ไม่อย่างนั้นมันจะ error ครับ

ถ้าติดตั้งสำเร็จนะครับ ad units ของคุณจะไม่แสดง เมื่อ targeted ads ไม่มี. แต่ funtion นี้ไม่ทำงานกับ Internet Explorer Version 5.0 หรือ ต่ำกว่านี้. ก็จะเป็นช่องว่าง ๆ แทน หรือไม่ก็เป็นกล่องว่างๆ .
แต่สำหรับคนทำ Blog ด้วย Blogger.com นะครับ. คุณต้องมี Host ที่ Server นอก Blogger.com ครับ หรือไม่ก็ก่อนหน้านี้ ได้ upgrade เป็น Blog*Spot Plus เพื่อใช้งาน funtion collapsing ad units นี้ได้บน blog ของคุณ

มีเรื่องเกี่ยวกับ AdSense API มาเล่าให้ฟังกันครับ
2-3 สัปดาห์ก่อน Google ได้แจ้งข่าวเกี่ยวกับ AdSense API. ทีนี้ก็เลยมีการตอบคำถามเกี่ยวกับ AdSense API ของ มาเล่าสู่กันฟังครับ

AdSense API คืออะไร

AdSense API เป็นบริการฟรี (แต่ยังเป็น Version ทดลองนะครับ) ที่จะทำให้คุณ (ผู้ที่สมัครใช้บริการเจ้าตัวนี้) สามารถเอา AdSense รวมไปกับบริการของเวบไซต์ของคุณ.โดยที่คุณเป็นเสมือนคนคอยให้บริการ AdSense แก่ผู้ใช้งานของเวบเอง โดยที่ผู้ใช้งานไม่ต้องออกจากหน้าเวบของคุณเลย คือผู้ใช้งานเวบของคุณสามารถ

-ปรับแต่งโฆษณา AdSense ของผู้ใช้ได้จากหน้าเวบไซต์ของคุณเลย
-ก็ยังสามารถดูสถิติโฆษณา AdSense
-ตรวจสอบยอดรายได้อีกด้วยครับ
*** โดยที่คุณจะได้รายได้จาก เปอร์เซนต์ของรายได้ จาก AdSense ที่แสดงบนเวบไซต์ของคุณ

ใครบ้างที่จะได้ใช้ AdSense API ครับ?
ตอนนี้ AdSense API ยังเป็น Version ทดลองอยู่นะครับ, ตอนนี้ก็เลยรับเฉพาะ นักพัฒนาโปรแกรม นะครับ แต่ว่าก็ต้องเป็น นักพัฒนาโปรแกรมที่มี Impressions มากกว่า 100,000 ต่อวันขึ้นไปนะครับ ถ้าคุณสมบัติได้ก็ลองสมัครดูนะครับ ไม่เกิน 2-3 สัปดาห์ AdSense team ก็จะติดต่อกลับมาครับ

ถ้าคุณเป็นผู้ให้บริการ AdSense API จะได้รายได้เท่าไหร่?
ขึ้นอยู่กับว่า มีคนทำ AdSense มาใช้บริการเวบไซต์คุณมากแค่ไหน แล้วก็เขามีรายได้มากเท่าำไหร่.เมื่อมีคนที่สมัครใหม่ (ไม่เคยทำ AdSense มาก่อน มาสมัครผ่านเวบไซต์ของคุณ เมื่อเขามีรายได้ 100$ คุณก็จะได้ 100$ ด้วยเหมือนกัน. นอกจากนี้,คุณจะได้รับ 15% จากรายได้ที่มีคนใช้งาน AdSense ผ่าน AdSense API บนหน้าเวบของคุณ.สำหรับรายละเอียด,ต้องไปอ่านที่ Terms & Conditions, Section IV, Paragraph 6.

ใครควรจะใช้ API นี้?
ใครก็ได้ที่มีฐานลูกค้าที่ใหญ่ ๆ ซึ่งลูกค้าเป็นคนทำเนื้อหาบนเวบไซต์ของเขาเอง (เช่น เป็นผู้ให้บริการ Blog,ผู้ให้บริการ wiki,ISPs หรือ แม้กระทั่ง social networking sites) ควรจะลองใช้ API นี้ดูนะครับ. โดยที่ให้ผู้ใช้งานของคุณมีโอกาสสร้างรายได้โดยใช้บริการของคุณ,คุณมีโอกาสสร้างความแตกต่างเหนือคู่แข่งของคุณด้วยการเพิ่มรายได้ให้กับลูกค้าแล้วครับ

ถ้าผมได้รับการตอบรับเข้าร่วม โปรแกรมทดลองนี้,แล้วผมจะได้รับการช่วยเหลืออย่างไรบ้างในการติดตั้ง API นี้
ตอนนี้,AdSense Team ก็กำลังพิจารณาเรื่องการช่วยเหลือหลาย ๆ อย่างที่จะเป็นไปได้ ก็ได้มีการตั้ง Google Group สำหรับผู้ใช้งาน API ขึ้นมา,ซึ่งเราจะคอยดู และ คอยช่วยตอบคำถามต่าง ๆ ได้. นอกจากนี้ ก็ยังทำการพัฒนาระบบ API อย่างต่อเนื่อง และก็กำลังพยายามที่จะขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น